TPNews, 2010-07-18 22:48:14
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ (เอ็นบีที) ถนนวิภาวดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงแนวคิดการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ในบางจังหวัดก่อนครบกำหนด 90 วัน ว่าจะดูตามสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ หลังจากให้หน่วยงานต่างๆ มีการประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง ทั้งในจังหวัดที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่และจังหวัดที่ได้มีการยกเลิกไปแล้ว ซึ่งทุกอย่างยังเรียบร้อยดี จึงเชื่อว่าในการประชุมครม.วันที่ 20 ก.ค.น่าจะมีการยกเลิกได้ในบางจังหวัด แต่คงไม่ใช่การยกเลิกทั้งหมด
เมื่อถามว่าการยกเลิกในขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศอฉ. ติดภารกิจระหว่างเยือนจีน จะมีปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าคงไม่มีปัญหา เพราะทางศอฉ.ก็ยังทำงานได้ อีกทั้งรมว.กลาโหมและรมว.มหาดไทย และหน่วยงานอย่างตำรวจและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ต้องทำความเห็นมาพิจารณาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าที่ต้องยกเลิก พรก.ฉุกเฉินก่อนครบกำหนดนั้นเป็นเพราะถูกแรงกดดันจากสังคมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้พูดมาตลอดว่าอยากให้ยกเลิกโดยเร็วที่สุด แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาตามมา หากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้วเกิดปัญหากระทบกระเทือนกับภาพรวมของประเทศ แต่ระยะเวลาที่ประกาศก็ผ่านมาพอสมควรแล้ว ซึ่งการต่ออายุคราวที่แล้วและยกเลิกบางส่วนก็ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้วก็ควรที่จะมีการมาประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง เพราะตนไม่คิดว่าจะต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนครบ 90 วัน
สำหรับประเด็นเหตุการณ์การเสียชีวิต 6 ศพภายในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญานั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็สอบสวนอยู่ ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่
“หัวใจสำคัญที่สุดคือการดำเนินคดีเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าในแต่ละเหตุการณ์มันเกิดขึ้นอย่างไรและใครเป็นผู้กระทำความผิด ซึ่งจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะตราบใดที่ยังขาดความชัดเจนมันก็จะมีสิ่งที่ถูกนำไปใช้ เพราะความคลุมเครือนั้นถูกนำไปตีความได้หลายอย่าง ผมได้ขอให้หน่วยงานโดยเฉพาะตำรวจกับดีเอสไอ ได้สรุปว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นเสียชีวิตบริเวณไหน ในวันที่เท่าไร ไม่อย่างนั้นถ้าพูดรวมๆ ถึงความสูญเสียแล้วก็มักจะไปทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย โดยเมื่อวาน (17 ก.ค.) ก็ได้บอกทางรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ) ไป ท่านก็จะไปเร่งทำ ซึ่งผมคิดว่ามันจะทำให้ภาพต่างๆ เริ่มชัดขึ้นโดยลำดับ และมันจะเชื่อมโยงกับหลายคดีก่อนหน้านี้ที่มีลักษณะของวินาศกรรม ทำให้ภาพชัดเจนขึ้นว่าความโยงใยเป็นอย่างไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การจับผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธแดง นั้นสามารถขยายผลไปถึงสิ่งที่เสธแดงมักพูดว่ารับคำสั่งจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “คงจะดูจากการเคลื่อนไหวได้ เมื่อมีการสอบสวนขยายผลได้ น่าจะได้ทราบว่าการที่เขาพบปะกับใคร วางแผนอะไร อย่างไร หรือมีความสัมพันธ์กับใครก็ช่วยให้เราขยายผลได้”
----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : คมชัดลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น