TPNews, 2010-07-20 00:40:47
วันที่ 19 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวการล่อซื้ออาวุธสงครามจาก นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายและคนสนิทพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก โดยดีเอสไอแสดงอาวุธที่ระบุว่าล่อซื้อมาจากนายหรั่งและพรรคพวก จำนวนมาก ในจำนวนเงิน 60,000 บาท เช่น ปืนอาก้า 4 กระบอก เครื่องยิงเอ็ม 79 จำนวน 2 กระบอก ลูกระเบิดขนาด 40 มม. (หัวสีทอง) 4 ลูก ฯลฯ โดยดีเอสไอจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายหรั่งฐานจำหน่ายอาวุธสงคราม
นายธาริต กล่าวว่า นายสุรชัย หรือหรั่ง ผู้ต้องหารายนี้เป็นคนสนิทใกล้ชิดกับเสธ.แดงจริง ดีเอสไอมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิด นายหรั่งได้เดินทางไปเมืองจีนพร้อมคณะการ์ดชุดดำ มีเที่ยวบินและภาพถ่ายขณะเดินออกจากด่านที่สุวรรณภูมิชัดเจน หากนายหรั่งไม่ใช่ตัวการสำคัญคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับหลายเหตุการณ์ ซึ่งดีเอสไอมีหลักฐานค่อนข้างแน่นหนาว่านายหรั่ง เกี่ยวข้องกับ 8 คดีสำคัญ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยหลักฐานในชั้นสอบสวน
นายธาริต กล่าวต่อว่า ขอทำความเข้าใจว่าการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้าย 8 คดี ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากคดีระเบิดและคดียิงเอ็ม 79 ในช่วง 2 เดือนของการชุมนุมเกิดขึ้นมากกว่า 60 คดี การก่อความไม่สงบทั้งหมดเป็นขบวนการและมีตัวละครชุดเดียวและหลังเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ การระบายอาวุธสงครามออกมาขายเป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งของนายหรั่งกับพวก
วันเดียวกัน นายวสันต์ พานิช กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ กล่าวถึงกรณีดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายสุรชัย เทวรัตน์ พร้อมแถลงว่าเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบถึง 8 คดีว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการนำผู้ต้องหามาแถลงข่าวว่าเป็นผู้กระทำผิดทั้งที่ยังไม่ได้มีการสอบสวนหรือตัดสินคดี ไม่เหมาะสม เพราะยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา เพราะเมื่อนำตัวมาแถลงข่าว ทำให้สังคมเชื่อไปแล้วว่าเป็นผู้กระทำจริง ถึงเวลาทำแผน ผู้ต้องหาก็จะถูกรุมทำร้าย ซึ่งโดยหลักกฎหมายแล้วไม่ควรนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว แต่น่าจะให้ผู้ต้องหาได้พบทนายความและลูกเมียญาติพี่น้อง ซึ่งเป็นหลักขั้นพื้นฐานที่ทำได้ จากนั้นจะแถลงข่าวดีเอสไอก็ไม่ควรแถลงข่าวฝ่ายเดียวแต่ให้ทนายความของผู้ต้องหามาร่วมแถลงด้วย
“ส่วนที่กล่าวหาผู้ต้องหาว่าเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ ก็ต้องดูพยานหลักฐาน ไม่ใช่ดูเฉพาะคำรับสารภาพของผู้ต้องหาอย่างเดียวว่าทำหรือไม่ทำ โดยหากผู้ต้องหาไม่มีทนายความ ญาติมีสิทธิร้องขอทนายความจากสภาทนายความให้ไปช่วยเหลือได้” กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายกล่าว
----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น