Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ไขปม 2 รัฐมนตรีรวยปริศนากว่า 10 ล้าน “องอาจ”ซุ่มทำธุรกิจสื่อ


TPNews, 2010-08-02 08:06:19

ภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เข้ารับตำแหน่งใหม่จำนวน 8 คน เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2553 ปรากฏว่ารัฐมนตรีอย่างน้อย 2 คนมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านบาท (เมื่อเทียบกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 22 มกราคม 2551) คือนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ทำให้เกิดคำถามเชิงสงสัยว่าในช่วงเวลา 2 ปี บุคคลทั้งสองรวยขึ้นได้อย่างไร?

“มติชนออนไลน์”ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังนี้

กรณีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ตอนรับตำแหน่ง ส.ส. (ขณะโสด) แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 34,863,068 บาท ไม่มีหนี้สิน ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุน 1,472,375 บาท

ตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สิน 47,859,857 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุน 16,999,400 บาท ไม่มีหนี้สิน ไม่รวมทรัพย์สินนางอโณทัย คล้ามไพบูลย์ คู่สมรส 23,310,384 บาท

เท่ากับนายองอาจมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 15,527,025 บาท

นายองอาจแจ้งว่ามีเงินลงทุน 3 รายการคือ

1.บริษัท เพชรประกาย จำกัด 150,000 หุ้น มูลค่า 15,000,000 บาท

2.บริษัท โอเคพับลิชชิ่ง จำกัด 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท

3.บริษัท โอเคเรียบเอสเตท จำกัด 9,994 หุ้น มูลค่า 999,400 บาท

จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท เพชรประกาย จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2552 ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ตั้งเลขที่ 8 อาคารยูพีดี ถนนรามอินทรา แขวงมีนบุรี กรุงเทพฯ มีนายพีระเดช ปริญญาสวน เป็นกรรมการ

บริษัท โอเคพับลิชชิ่ง จำกัด ก่อตั้งวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ประกอบกิจการค้าสิ่งพิมพ์ ที่ตั้งเลขที่ 25/ 2 ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพฯ มีนายชัย หงส์ศิริพงษ์ เป็นกรรมการ (นายชัย เป็นกรรมการบริษัท เซาท์เทอร์น ซิตี้ ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ ใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี นายมนู วณิชานนท์ เป็นเจ้าของ)

บริษัท โอเค เรียลเอสเตท จำกัด ก่อตั้งวันที่ 24 ตุลาคม 2549 ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาฯ ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเดียวกันกับบริษัท โอเคพับลิชชิ่ง จำกัด

นายพีระเดช ปริญญาสวน เป็นกรรมการ บริษัท บุญยวีร์ เอ.ซี. จำกัด รับที่ปรึกษาธุรกิจ นางสาว ภัทรมน เกิดสมพงษ์ ถือหุ้นใหญ่ 76% นายณัฐพงศ์ นาควัชระถือหุ้น 10% นายธวัช นุชเปลี่ยน 10% และ บริษัท แฮปปี้ บุ๊ค พับลิชชิ่ง จำกัด ก่อตั้งวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ตั้งเลขที่ 8อาคารยูพีดี ถนนรามอินทรา มีนบุรี

ก่อนหน้านี้นายองอาจเคยเป็นเจ้าของ บริษัท สำนักกฎหมายซิกม่าแอนด์อินทิเกรต จำกัด เลิกกิจการวันที่ 15 ธันวาคม 2552 และถือหุ้น ในบริษัท ไบโอสครีนเนอร์ โปรดักท์ จำกัด อยู่ใน จ.เชียงใหม่ (ศาลล้มละลายกลางมีคำพิพากษาล้มละลายเมื่อ 24 พฤษภาคม 2550 ) น.ส.ตติยา อะทะไชย ถือหุ้นใหญ่ 48% นายองอาจ 14% จากทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ นายองอาจแจ้งว่ามีรายได้จากเงินประจำตำแหน่ง และเงินเพิ่ม จำนวน 1,251,960 บาท เบี้ยประชุม 90,000 บาท รวม 1,341,960 บาท

ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านบาท จึงสวนทางกับ “รายได้” พอสมควร?

กรณีนายไชยยศ จิรเมธากร ตอนเป็น ส.ส.แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 109,471,475 บาท บุตรไม่บรรลุฯ 1,021,584 บาท รวม 110,493,059 บาท หนี้สินประมาณ 18.3 ล้านบาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 92,170,103 บาท

ตอนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีทรัพย์สิน 123,999,242 บาท หนี้สิน 16,592,802 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 107,406,440 บาท

เท่ากับมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 17.7 ล้านบาท

ทรัพย์สินของนายไชยยศที่เพิ่มขึ้น ได้แก่

เงินฝากจาก 1,909,259 บาทเป็น 6,863,382 บาท

ที่ดินจาก 40,840,000 บาทเป็น 44,340,000 บาท

รถยนต์ จาก 5,800,000 บาท เป็น 8,533,644 บาท

ทรัพย์สินอื่น จาก 2,000,000 บาท เป็น 4,340,000 บาท

บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ เงินฝากจากเดิม “ไม่มี” เป็น 526,990 บาท

เงินลงทุน จาก 1,021,584 บาท เป็น1,943,166 บาท

นายไชยยศระบุว่ามีรายได้จากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง

ไม่มีรายได้อื่น

ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจึงสวนทางกับ “รายได้” อีกเช่นกัน?

ทั้งสองคนจะอธิบายอย่างไร เป็นเรื่องน่าสนใจ?

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น