by TPNews, 2011-05-06 00:37:09
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลไต่สวนคำร้องของอัยการสูงสุดที่ขอให้ศาลพิจารณาปรับเงื่อนไขการประกันตัวของแกนนำ นปช. ว่า การไต่สวนเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ตลอดทั้งวัน สามารถสืบพยานไปได้เพียงปากเดียว คือ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. และเป็นเรื่องการปราศรัยของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทั้งที่แกนนำ นปช.ทั้งหมด มีเงื่อนไขการประกันตัวแตกต่างกันแยกไปได้ 3 กลุ่ม คือ
1.กรณีของนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์
2.กรณีนายจตุพร และ
3.กรณีของตนและพวก จึงน่าสงสัยว่า การยื่นขอปรับเงื่อนไขการประกัน และความพยายามขอถอนประกันตัวแกนนำทั้งหมดของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้นใช้หลักเกณฑ์อย่างไร เพราะกรณีนายจตุพร เงื่อนไขการประกันตัวคือห้ามพูดเรื่องคดีที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดี เว้นแต่เป็นการทำหน้าที่ ส.ส. ซึ่งไม่เกี่ยวกับการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เมษายน แต่อย่างใด และหากจะกล่าวอ้างว่าเป็นการกระทำที่หมิ่นสถาบัน กรณีดังกล่าวก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว
"จริงๆ แล้วตัวของนายธาริตจะรับใช้รัฐบาลอย่างไรคงไม่มีใครว่า แต่อยากเตือนว่าเอาดีเอสไอที่เป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมไปเลียแข้งเลียขานักการเมืองด้วย เพราะจะทำให้องค์กรนี้เสื่อมความน่าเชื่อถือ ตัวนายธาริตเองก็เหมือนกับเชื้อโรคที่คอยกัดกินร่างกาย คอยบ่อนทำลายให้ร่างกายหรือดีเอสไออ่อนแอ ซึ่งหากจะหายได้ก็ต้องรอยาดีเข้าไปฆ่าเชื้อโรค แต่เรื่องอย่างนี้ต้องใช้เวลา จึงกลัวว่ากว่าจะได้ยาดี ดีเอสไอจะเสื่อมความน่าเชื่อถือไปเสียก่อน" นายณัฐวุฒิกล่าว
-------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น