TPNews, 2010-06-09 00:43:19
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 มิ.ย. ศาลมีคำสั่งให้ฝากขังครั้งแรก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาคดี เป็นผู้ใช้และสนับสนุนผู้อื่นกระทำผิดก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1 135/2 และ 135/3 ตามที่พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้อง
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ภายหลังนางสุภาพ เพชรศรี ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 ล้านบาท และตำแหน่ง ส.ส. ของนายจตุพร และนายการุณ อัตราเงินเดือนคนละ 104,330 บาท 10 เท่า มูลค่า 1,043,300 บาท รวมทั้งสิ้น 4,086,600 บาท ยื่นขอประกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาหลักทรัพย์แล้วตีราคาประกันตัวนายจตุพร และนายการุณ คนละ 1 ล้านบาท โดยศาลมีคำสั่งให้ทั้งสองมารายงานตัวอีกครั้ง 28 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลังนายจตุพร กล่าวสั้นๆ ว่า ขอขอบคุณศาลที่อนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ ซึ่งหลังประกันตัวตนจะปฏิบัติตัวอย่างไรนั้นตนรู้ดี ที่ผ่านมาตนเองแสดงเจตนามาโดยตลอดว่าจะเข้ามอบตัวต่อสู้คดีและไม่หลบหนี
ด้านนายคารม พลทะกลาง ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ นายจตุพร และนายการุณ ได้รับทราบข้อกล่าวหาทุกข้อหาของพนักงานสอบสวนดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว โดยศาลพิจารณาจากหลักทรัพย์ที่ยื่นประกันตัว พฤติการณ์ในคดีว่าจะหลบหนีหรือไม่ จะไปข่มขู่ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ รวมทั้งการตั้งข้อหาก่อการร้าย , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 116 ที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอดำเนินการก็ได้รับประกันทั้งหมดโดยศาลไม่ได้เปิดไต่สวน แต่พิจารณาดูจากเอกสารเพียงอย่างเดียว ซึ่งการให้ประกันตัวตนเข้าใจว่า ศาลอาจจะมองว่านายจตุพร เข้าพบพนักงานสอบสวนมาโดยตลอด และมาศาลตามหมายเรียก แม้แต่หลังเลิกชุมนุมก็ไปพบพนักงานสอบสวน และยังมีเหตุผลที่เชื่อว่าเราไม่ข่มขู่พยาน ไม่หลบหนี ไม่ไปทำความผิดระหว่างการให้ประกันตัว โดยทั้งสองได้ปฏิเสธไม่คิดว่าจะกระทำผิดฐานก่อการร้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้ในกระบวนการของศาลต่อไป อย่างไรก็ตามข้อหาก่อการร้ายตนไม่รู้สึกกังวล และจะไม่ฟ้องกลับ หากคิดฟ้องกลับจะต้องมีหลักฐานที่มีน้ำหนักพอที่จะสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้
ส่วนกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระ มุสิกพงศ์ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง น.พ.เหวง โตจิราการ และแกนนำ นปช. คนอื่นๆ ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ตามความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หากพ้นครบกำหนดคุมตัว 30 วันแล้วจะต้องมาฝากขังต่อที่ศาลอาญานั้น นายคารม ทนายความ กล่าวว่า ก็จะใช้หลักทรัพย์เงินสด 1 ล้านบาทในการยื่นประกันตัว ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล โดยคาดว่าน่าจะเป็นบรรทัดฐานใกล้เคียงกับนายจตุพร และนายการุณ
เมื่อถามว่า หลังจากนี้นายจตุพร และนายการุณ ยังสามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้หรือไม่ นายคารม ทนายความ กล่าวว่า หากไม่ผิดกฎหมาย สามารถทำได้ตามสมควรเพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ โดยตนเชื่อว่าทั้งสอง มีดุลพินิจที่จะดำเนินการว่าเหมาะสมหรือไม่ในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งจะต้องไม่ไปยุยงปลุกปั่น อย่างไรก็ดีอยากบอกกับพี่น้องเสื้อแดงว่า ขอให้ช่วยกันทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้รับการประกันตัว นายจตุพร และนายการุณ ได้ออกมาทักทายกับกลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังใจ โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่กลุ่มประชาชนต่างตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ และมอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้ ก่อนที่นายจตุพร และนายการุณ จะขึ้นรถเดินทางออกจากศาลอาญา โดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ด้านพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า กรณีการควบคุมตัวผู้ต้องหาตามพรก. ฉุกเฉิน นั้น เราสามารถควมคุมได้ภายในระยะเวลา 30 วัน แต่หากพบว่าบุคคลที่ถูกควบคุมมีการกระทำผิดซึ่งหน้า เช่น พกพาอาวุธปืน ระเบิด หรือกระทำการใดโดยผิดกฎหมายซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและส่งศาลทันที หากศาลตัดสินว่ามีความผิด บุคคลนั้นต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหายทันที โดยจะถูกส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำเหมือนคดีอาญาทั่วไป
"ดังนั้นหากพบว่าผู้ถูกควบคุมตาม พรก. ถูกดำเนินคดีและส่งตัวไปอยู่ในเรือนจำ นั้นหมายความว่าบุคคลนั้นๆ ได้กระทำความผิดตามกฎหมายคดีอาญา " พล.ต.อ.ปทีป กล่าว
----------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : คมชัดลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น