Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

"อภิสิทธิ์" ลุยปรองดองเป็นของขวัญปีใหม่


TPNews, 2010-06-10 23:16:48

(10 มิ.ย.) หลังจากเคารพธงชาติ เวลา 18.01 น. ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้อ่านจดหมายจากนายกรัฐมนตรีถึงประชาชนชาวไทย ประกาศเชิญชวนประชาชน "ร่วมเดินหน้าปฏิรูประเทศไทย" ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ดังนี้

"พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก หลายปีที่ผ่านมาเราได้สะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่สร้างความบอบช้ำให้ประเทศชาติและประชาชนอย่างรุนแรงหลายเหตุการณ์ สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุดก็คือความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด ล้วนแล้วแต่มาจากการกระทำของคนไทยด้วยกันเองทั้งสิ้น ผมมั่นใจว่าพี่น้องที่รักชาติบ้านเมืองทุกคน ไม่มีใครอยากเห็นความรุนแรง หรือความสูญเสียเกิดขึ้นอีก เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายลึกซึ้งเกินกว่าที่จะเยียวยาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นทางด้านจิตใจ

วันนี้ประเทศไทยต้องเดินหน้า แต่ความโกรธ ความเคียดแค้นและความชิงชัง ไม่สามารถสร้างอนาคตให้ประเทศไทยและลูกหลานไทยได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะปรองดองเพื่อปฏิรูปประเทศไทย รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ สร้างความเสมอภาค สื่อสารถึงกันอย่างสร้างสรรค์ ค้นหาและยอมรับความจริง โดยมีการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย มีประสิทธิภาพและโปร่งใส ทั้งหมดนี้รัฐบาลจะทำให้เกิดขึ้นฝ่ายเดียวไม่ได้ แต่พี่น้องประชาชนทุกคน ทุกฝ่าย จะต้องช่วยกัน โดยผมจะจัดให้มีการรับฟังทุกเสียง ทุกความคิด ให้เราก้าวข้ามวิกฤตเพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้ประเทศไทย

ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันสร้างบ้านของเราด้วยกัน ผมจึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ด้วยความเชื่อมั่นในพี่น้องคนไทยทุกคน สวัสดีครับ"

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวผ่านทีวีพูลโดยมีตัวแทนภาคส่วนต่างๆ ที่ร่วมประชุมกับนายกฯ ยืนรวมกันที่บันไดภายในตึกไทยคู่ฟ้าว่า วันนี้ตนและรัฐบาลอยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันปรองดองเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปสร้างอนาคตใหม่ให้กับประเทศไทย ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้จัดกิจกรรมหลายกิจกรรมเพื่อเป็นการส่งสัญญาณของการเริ่มต้นในกระบวนการนี้ เมื่อเช้าวานนี้ (วันที่ 10 มิ.ย.) ได้จัดพิธีทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลต่อประเทศไทย ซึ่งการหลอมรวมจิตใจการขับเคลื่อนโดยการเชิญชวนทุกภาคส่วนของสังคมเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในเรื่องของการปรองดอง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป ในช่วงเย็น (วันที่ 10 มิ.ย.) ตนได้เชิญหลายภาคส่วนที่จะช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทย อาทิ ครม. ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน สื่อสารมวลชน ตัวแทนภาควิชาการ ภาคธุรกิจเอกชน เป็นต้น

สิ่งที่น่ายินดีนอกเหนือจากที่ประชาชนจะได้รับรู้รับทราบความพยายามในการขับเคลื่อนแผนปรองดอง 5 ข้อ ได้มีการรายงานความคืบหน้าในการตั้งกลไกต่างๆ ซึ่งทุกภาคส่วนได้ทำงานล่วงหน้าไปแล้ว มีความคิดริเริ่มมีกิจกรรมดีๆ หลายกิจกรรม ซึ่งจะส่งเสริมทำให้การปรองดอง การปฏิรูป นำไปสู่การสร้างบ้านที่เป็นอนาคตใหม่ของประเทศไทย น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นองค์กรส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ได้มีการริเริ่มทำความเข้าใจ และระดมประชาชนมาทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีตามแผนปรองดอง กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีความพร้อมมีเครือข่ายที่จะทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายสำคัญของแผนปรองดอง เป็นต้น ภาคธุรกิจเอกชนเริ่มทำงานแล้ว ในการจับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจที่จะมาหนุนช่วย ให้เรื่องการสร้างความเสมอภาคสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมีความเป็นไปได้ ธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ธุรกิจชุมนุม สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นมิตร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับสื่อสารมวลชนได้มีการทบทวนถึงบทบาทต่างๆ ที่จะนำไปสู่ความจำเป็นในการปฏิรูปการใช้ทรัพยากรของภาคสื่อสารมวลชนเอง ในการขับเคลื่อนแผนปรองดองและการปฏิรูปประเทศไทย รวมไปถึงภาควิชาการที่จะมีบทบาทสำคัญยิ่งในการระดมพลังที่จะเป็นพลังที่สำคัญที่สุดพลังหนึ่งคือ พลังของคนหนุ่มสาวที่มีทั้งความบริสุทธิ์ มีทั้งพลังแห่งการสร้างสรรค์ในการที่จะมาขับเคลื่อนเรื่องของกระบวนการปรองดองและการปฏิรูป และที่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆของสังคมที่มีความพร้อมและได้เริ่มเดินหน้าไปแล้ว แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน มีความคิดความอ่านทางการเมืองอย่างไร ผมขอยืนยันว่าวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับกระบวนการนี้

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารเพื่อจะได้ทราบถึงช่องทางในการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมทั้งการให้ความคิดเห็นที่จะเป็นประโยชน์กับกระบวนการ ทั้งในส่วนที่จะมีโอกาสในการขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ช่องทางที่เราจะเปิดไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปสำรวจความคิดเห็นก็ดี การมีโทรศัพท์ การมีช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ล้วนแล้วแต่จะเป็นโอกาสสำหรับประชาชนทุกคนในการที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการสำคัญ กระบวนการประวัติศาสตร์ตรงนี้ ตนขอเรียนยืนยันกับพี่น้องประชาชนอีกครั้งว่า การทำงานในเรื่องนี้จะไม่มีโอกาสสำเร็จได้เลย ถ้าประชาชนทุกคนไม่เข้ามาช่วยกันผลักดันให้นำไปสู่ความสำเร็จ และตนทราบดีว่ากระบวนการนี้ซึ่งจะต้องแก้ไข คลี่คลายปัญหาต่างๆ รวมทั้งปรับปรุงเปลี่ยนแปลงปฏิรูปโครงสร้างด้านต่างๆ จะต้องใช้เวลา

ตนตระหนักตั้งแต่ต้นว่ากระบวนการนี้จะต้องใช้เวลายาวนานกว่าอายุของรัฐบาลชุดนี้ แต่ตนต้องการจะให้ในอีกหลายเดือนข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาที่เหลืออยู่ในปีนี้เราสามารถผนึกกำลังของคนทั้งประเทศ มีแผนของการที่จะนำไปสู่การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศของเราให้หลุดพ้นจากภาวะวิกฤติและความรุนแรง และสร้างชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีและบ้านเมืองที่ดีสำหรับประชาชนทุกคน มีข้อตกลงเป็นรายละเอียดที่นำไปสู่การปฏิบัติได้ มีความชัดเจนว่าแต่ละภาคส่วนในสังคม รวมทั้งรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนกระบวนการต่างๆ อย่างไร และเสร็จทันภายในสิ้นปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

นายกฯ กล่าวว่า งานใดก็ตามมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการและมีความพร้อมที่จะทำในปีนี้ก็จะสามารถเดินหน้าได้ทันที ตนขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนอีกครั้ง และขอเรียนว่าการทำงานในครั้งนี้เป็นการทำงานเพื่อส่วนรวมและบ้านเมือง ตนตระหนักดีว่าความคิดเห็นที่แตกต่างในสังคมเป็นธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีอยู่ได้ และเป็นสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แผนปรองดองที่จะนำไปสู่การปฏิรูปจะไม่ไปทำลายความหลากหลาย ไม่ไปทำลายความแตกต่าง และเหตุการณ์ใดๆ ที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องมีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ ก็ขอให้เป็นไปตามความเป็นจริงที่ขณะนี้รัฐบาลก็เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบ ค้นหาข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่

“ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนอีกครั้ง และด้วยความเชื่อมั่นในพี่น้องประชาชนคนไทยและสังคมไทย ผมมั่นใจว่าความร่วมมือของพี่น้องประชาชนนั้นจะทำให้อนาคตของประเทศไทยเป็นอนาคตที่สดใส และทำให้บ้านเมืองก้าวพ้นวิกฤติ และประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ได้รับความเชื่อถือ ความเชื่อมั่นและมีบทบาทสำคัญในสังคมโลกต่อไป” นายกฯ กล่าวปิดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่นายกฯ จะขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาลผู้สื่อข่าวได้ถามนายกฯ ว่ามั่นใจในแผนปรองดองครั้งนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “มั่นใจครับ มั่นใจ ”

-----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : คมชัดลึก




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น