Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แกนนำแดงรุดตรวจร่างกายหลังออกจากคุก


by TPNews, 2011-02-27 00:18:46

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่โรงพยาบาลพระราม 9 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ได้รับการประกันตัวชั่วคราว อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายขวัญชัย ไพรพนา นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ได้เดินทางมาตรวจร่างกายหลังถูกคุมขังมานาน 9 เดือน

ต่อมาในเวลา 09.55 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลพระราม 9 ด้วยเช่นกัน และกล่าวว่า มีนัดตรวจร่ายกายที่โรงพยาบาลอยู่ก่อนแล้วไม่เกี่ยวกับแกนนำ นปช. จากนั้นจึงเข้าตรวจร่างกายตามปกติ

นายณัฐวุฒิเปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกาย มีอาการปวดหลังเพราะหมอนรองกระดูกเคลื่อน แพทย์ได้นัดให้ทำกายภาพบำบัด ส่วน นพ.เหวงมีอาการไซนัส นายขวัญชัยมีอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน และนายยศวริศมีอาการต้อลม ซึ่งจะต้องรับการรักษาต่อไป ทั้งนี้ ภายหลังตรวจร่างกาย แกนนำ นปช.ได้เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านสุกี้เรือนเพชร ถนนเพชรบุรี

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

SMS-TPNews 26-2-54

1. ทักษิณซุ่มเงียบ เขียนหนังสือ (Waplink)
2. "ธาริตเผยผลสอบใหม่ นักข่าวญี่ปุ่นโดนยิงด้วยอาร์ก้า-ปัดจนท.ไม่มีใช้"
3. "ลิเบียระอุดันน้ำมัน-ทองคำพุ่ง ปตท.หวั่นอั้นดีเซลไม่อยู่ คลังจ่อปรับGDP"
4. "ชวนนท์"เผย"วีระ"เซ็นชื่อขออภัยโทษแล้ว สถานทูตไทยในกัมพูชาช่วยเจรจา
5. "28กพ.ทนายอานนท์จะประกันเสื้อแดง6คน สนับสนุน : ธ.ไทยพาณิชย์ เลขที183-238662-8"
6. วันนี้ "แดงสยาม" เปิดเวทีหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เที่ยงวันยันเที่ยงคืน
7. "27ก.พ.จักรภพรับเชิญโฟนเวที"แดงสยาม"อนุสรณ์สถานฯ รังสิต เริ่มงาน15.00น"
8. "บอร์ดโทรศัพท์ยกทีมลาออก ไม่พอใจแรงกดดันจากรัฐให้เรียกเงินเพิ่มจากAIS"
9. "พธม.ค้านรัฐนำพระวิหารขึ้นศาลโลก เตรียมแถลงท่าทีบนเวทีคืนนี้เวลา20.00น."
10. "วันนี้ ฟัง "อ.ชูพงศ์" คุยต่อจากเมื่อวานที่ www.redsiam.tv เวลา 22.00น."
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คลิป "สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์" โดนรวบตัว - สน.โชคชัย

แถลงการณ์ของ นายจักรภพ เรื่อง การจับกุมนายสุรชัยฯ


แถลงการณ์ของ นายจักรภพ เพ็ญแข

เรื่อง การจับกุมนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์และการให้ประกันตัวแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน

วันอังคารที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔

ในนามขบวนการปฏิวัติประชาธิปไตยไทย ผมขอประณามการตั้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและการจับกุมตัว นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ประธานแดงสยาม หลังการปฏิบัติภารกิจทางการเมืองเมื่อคืนวันจันทร์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ พฤติกรรมดังกล่าว สวนทางกับหลักประชาธิปไตยสากลทุกประการทั้งในเนื้อหากฎหมายอันเกี่ยวพันกับสถาบันกษัตริย์และในการดำเนินการจับกุมด้วยบุคคลนอกเครื่องแบบด้วยอาวุธครบมือ เราถือว่า นี่คือการประกาศความเป็นศัตรูอย่างชัดแจ้งกับประชาชน ความหวังใดๆ ที่เราจะได้ประชาธิปไตยที่แท้ภายใต้ระบอบศักดินาอำมาตยาธิปไตยเช่นที่เป็นอยู่นี้ได้ดับลงแล้วอย่างสิ้นเชิง

นี่มิใช่ รุ่งอรุณแห่งความยุติธรรมหากคืออัสดงคตแห่งระบอบประชาธิปไตยไทย หรือเป็นช่วงตะวันตกดินก่อนเข้าสู่ช่วงกาฬปักษ์อันมืดมิด

ความยินดีที่ได้เห็นแกนนำ นปช.ฯ ทั้ง ๗ คนได้รับการประกันตัว จึงถูกถ่วงดุลด้วยการจับกุมตัว นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และเหยื่อการเมืองในระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จของไทย ขอให้มวลชนจงรวมตัวกันยืนหยัดในอุดมการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันแท้จริงต่อไป โดยไม่เห็นแก่เศษเนื้อข้างจานหรือสินบนทางการเมืองที่ไร้ความหมายใดๆ

นอกจากนั้นให้ยกเลิกความในรัฐธรรมนูญหมวด ๒ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ อันเป็น ฐานความผิดของนายสุรชัยฯ และของบุคคลอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งตัวผมเอง ลงโดยสิ้นเชิง สาระของรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างโฉดชั่วและเป็นภูเขาที่ขวางกั้นมิให้ระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริงเกิดขึ้นได้ หากกฎหมายนี้และอื่นๆ ในลักษณะนี้ยังดำรงอยู่ สังคมไทยจะกลายเป็นสนามรบและจะเกิดความรุนแรงทางการเมืองอีกในไม่ช้า

ขอให้มวลชนตาสว่างผู้เป็นนักปฏิวัติ ร่วมเดินทางสายสำคัญนี้ต่อไป ผมขอปวารณาตัวเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการปฏิวัติประชาธิปไตยไทย ขอให้แกนนำทุกท่านที่พรั่งพร้อมต่อการเดินไกล เช่น คุณพลท เฉลิมแสน ผู้ประสานภารกิจ ช่วยเป็นเรี่ยวแรงภายในประเทศ ให้แก่มวลชนที่รักยิ่งของเราอย่างมั่นคงและศรัทธา.

ขอกราบพี่น้องประชาชนจากหัวใจของผม

นายจักรภพ เพ็ญแข

*******************************************************************************

Statement of Mr. Jakrapob Penkair, Former Minister of Prime Minister’s Office

The Arrest of Mr. Surachai Danwattananusorn and The Bail Granting to UDD’s Leaders

Tuesday, February 22, 2011

On behalf of Thailand’s revolutionary movement, I so condemn the charging and the arrest of Mr. Surachai Danwattananusorn, Dang Siam’s President, after a political activity on the night of February 21, 2011. Such action goes directly against international norms of democracy in both substance, which involves Thailand’s monarchy, and its execution, by employing several fully-armed, police plainclothes. We take it as a pronouncement of the state’s hostility to its people. Any hope to achieve true democracy for Thailand within the current imperial-aristocratic regime has been completely dashed.

This is not “Dawn of Thailand’s Justice”, as stated, but a major sunset to Thailand’s democratization before the arrival of Dark Age.

The joy of seeing the UDD’s leaders freed is thus balanced out with Mr. Surachai’s arrest, as well as other victims’ injustice, myself included. May the people stand firm on their plight, with complete disregard of the residues of democracy and meaningless political bribery.

Furthermore, it is time to relinquish the undemocratic and repressive laws of Lese Majeste in Thailand. This very legal basis, cited as the ground of Mr. Surachai’s guilt as well as hundreds others, has been exploited as deadly political weapons for so long, and these laws stand mountainously against the path of true democracy. If it remains, the situation will soon be inflamed and more violence will be applied to this once-peaceful country.

May the wide-eyed, revolutionary people of democracy stay united and attached to our new path. I willingly take part to such road and wish some of the well-prepared group leaders, like Mr. Palot Chalermsan, accomodate our people domestically with mental stability and full faith.

From My Heart to Our Struggling People of Thailand

Jakrapob Penkair

รวบ "สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์" หลังปราศรัยที่เจดีย์ขาว สนามหลวง


by TPNews, 2011-02-22 07:43:28

รวบ นายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่มแดงสยาม ตามหมายจับศาลอาญา ที่สน.โชคชัย กล่าวพาดพิงสถาบันเบื้องสูง

วันนี้ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รองผบก.น.4 สั่งให้การให้ ตำรวจชุดสืบสวนบก.น.4 นำโดย พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.น.4 เข้าควบคุมตัวนายสุรชัย แซ่ด่าน หรือ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม ตามหมายจับศาลอาญา ที่สน.โชคชัย ไปขออำนาจศาลออกไว้ กรณีที่นายสุชัย มาปราศรัยที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อเดือนธ.ค.53 แล้วกล่าวพาดพิงสถาบันเบื้องสูง

โดยจับกุมได้ขณะที่ นายสุรชัย กำลังจะกลับเข้าบ้านพักในซอยประชาราษฎร์ 3 ถนนกรุงเทพ-นนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.โชคชัย โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาให้กำลังใจที่สถานีตำรวจด้วย แต่ไม่มีเหตุรุนแรง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นายสุรชัย ไม่ยอมให้การใดๆ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

สำหรับนายสุรชัย เมื่อปี 53 เคยเข้าร่วมกับแกนนำนปช.ในการกดดันรัฐบาล แต่ช่วงที่มีการชุมนุมเข้มข้นได้แยกตัวออกมาพร้อมกับประกาศว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะไร้ผลทำให้แกนนำนปช.ขณะนั้นประกาศตัดความสัมพันธ์ทำให้นายสุรชัย เคลื่อนไหวอยู่ในชื่อของกลุ่มแดงสยามจนมาถึงปัจจุบัน

------------------------------------------------------
---------------------------------
ที่มา : Redthai

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แดงถกเถียง โดย กาหลิบ



by TPNews, 2011-02-20 23:21:19

คอลัมน์เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง แดงถกเถียง
โดย กาหลิบ

ข่าว “ความขัดแย้ง” ในหมู่เสื้อแดง ย่อมทำให้คนเสื้อแดงไม่สบายใจ คนเสื้อแดงอยากได้ยินว่าคนเสื้อแดงทุกคนรักและสามัคคีกัน เพื่อสู้ศัตรูได้อย่างเป็นเอกภาพจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ในช่วงสองสัปดาห์มานี้จะได้ยินคำพูดและคำเขียนประมาณนี้อยู่บ่อยครั้ง และรู้สึกเห็นใจคนเสื้อแดงที่พลีตนเพื่อการต่อสู้มาตลอดหลายปีนี้มาก

วันนี้จึงต้องนำเรื่องนี้มาพูดกันตรงๆ เพื่อเข้าใจให้ทะลุ และกำหนดใจให้ได้ว่าควรทำอย่างไรกันต่อไป

ถ้ามองกันตื้นๆ ไม่นำข้อมูลย้อนหลังมาวิเคราะห์ให้สมบูรณ์ บางท่านอาจจะนึกว่างานนี้คุณธิดา ถาวรเศรษฐ์ ในฐานะผู้มีอำนาจใน นปช. แดงทั้งแผ่นดิน กับคุณสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ประธานแดงสยาม เป็นคนสองคนที่ทะเลาะทุ่มเถียงกันอย่างไม่หยุดยั้ง และมีตัวละครอย่าง คุณจตุพร พรหมพันธุ์ เข้ามาร่วมแจมแบบผิวๆ หรือ คุณไจล์ส อึ๊งภากรณ์ ที่แสดงอาการเลือกข้างและร่วมการชกต่อยอย่างเมามัน

สรุปอย่างนี้ก็ไม่ผิดนัก แต่เป็นปลายทางและปลายเหตุอย่างยิ่ง

ต้นเหตุคือแนวคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างคนที่กำลังถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ ไม่ใช่เรื่องสาดน้ำใส่กันว่าใครกล้าหาญกว่าใครสมัยที่ยังชูธงคอมมิวนิสต์อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากยอมรับกันอย่างคนที่มองเห็นสัจจะในการต่อสู้แล้ว การทะเลาะกันครั้งนี้ก็มีเหตุผล

อันที่จริง ความรู้สึกแบ่งแยกได้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเหตุฆ่าประชาชน ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เมื่อมีคำแถลงอย่างเป็นทางการและเป็นสาธารณะของคณะ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ขับไล่ “ผู้นำมวลชน” สองคนออกจากขบวน คือพลตรีขัตติยะ สวัสดิผลและคุณสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หลังจากเกิดกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า แดงสยาม ขึ้นแล้ว ผลจากการกระทำนั้น ได้สร้างความร้าวรานใจอย่างยิ่งในหมู่มวลชนที่ตาสว่างขึ้นทุกวัน ความคิดมวลชนเริ่มก้าวหน้า แต่ใจยังยึดติดกับตัวแกนนำที่ร่วมต่อสู้กันมาจนเกิดลัทธิพรรคพวก ถึงขนาดรู้ว่าเดินผิดก็ยังยอมร่วมเดินด้วย ซึ่งน่ารักไปอีกแบบหากมองในมุมส่วนตัว ความรู้สึกในเรื่องนี้ของ นปช.ฯ ไม่เคยเปลี่ยน ก็การระดมมวลชนยังประสบความสำเร็จมืดฟ้ามัวดิน เรียกกี่ครั้งก็มายอมทนทุกข์ทรมานอยู่ด้วยทุกครั้ง แกนนำ นปช.ฯ จึงเกิดมั่นใจในอำนาจและไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรในขบวนประชาธิปไตยที่หลากหลายแตกต่างขึ้นทุกวัน จนแม้มวลชนนับร้อยถูกฆ่าอย่างทารุณกลางนครหลวง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเป็นฝีมือของระบอบ ทัศนะนั้นก็ยังไม่เปลี่ยน ยิ่งเมื่อหยิบคุณธิดาฯ ขึ้นมารักษาการประธานแล้ว ทัศนะนี้ดูจะกลายเป็นอุดมการณ์ใหม่ที่เอามาตอกย้ำซ้ำซากกันเสมอเลยด้วยซ้ำ

ถามแบบบ้านๆ ว่า ก็ได้ข่าวว่าแดงสยามโจมตี นปช.ฯ อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง คนที่ถูกวิจารณ์เขาจะลุกขึ้นมามีอาการหรือตอบโต้บ้างไม่ได้หรืออย่างไรเล่า

คำตอบคือได้ดูให้ลึกลงไปหรือเปล่าว่าการโจมตีนั้นเกี่ยวกับเรื่องอะไร ส่วนตัวหรือส่วนรวม และเป็นประโยชน์ต่อขบวนประชาธิปไตยหรือไร้ประโยชน์

หัวใจของเรื่องอยู่ตรงที่ว่า แนวคิดเปลี่ยนแปลงโดยการปฏิรูป และนโยบายชุมนุมไปเรื่อยจนกว่าได้รับชัยชนะโดยอ้างว่าจะ “ยกระดับ” การต่อสู้ไปพลางนั้น ทางแดงสยามเขาไม่เชื่อ เขาเชื่อว่า มวลชนชาวไทยในวันนี้เขาพร้อมต่อแนวคิดปฏิวัติและไม่อยากชุมนุมไปเรื่อยๆ โดยไร้ความหมายและทิศทางสู่ชัยชนะอีกต่อไปแล้ว เขาจึงวิพากษ์วิจารณ์เอา

และขณะที่วิพากษ์อยู่นั้น เขาก็ร้องขอให้มวลชนปฏิวัติเข้าร่วมในทุกกิจกรรมของ นปช.ฯ และของกลุ่มประชาธิปไตยต่างๆ อย่างไม่ขาดตอน เพื่อมิให้พลังมวลชนคนเสื้อแดงต้องลดน้อยถอยลงไป

แล้วมันเสียหายตรงไหนต่อขบวน?

ส่วนข้อเขียนของคุณไจล์ส อึ๊งภากรณ์นั้น อ่านถ้อยคำเผ็ดร้อนเหล่านั้นแล้วเราก็เห็นเจตนาดี คุณไจล์สฯ คงจะห่วงว่ามวลชนจะเกิดความสับสนและอาจตัดสินใจไม่เดินทางมาร่วมการชุมนุมให้มันใหญ่โตเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกต่อไป จนอาจทำให้ขบวนประชาธิปไตยพ่ายแพ้ต่ออำนาจอันมหาศาลของฝ่ายศักดินา-อำมาตย์ได้ คุณไจล์สฯ จึงบริภาษแดงสยามว่าชอบพูดเอามัน ขาดประสบการณ์ และมีพฤติกรรมเป็นเด็กไร้เดียงสา ความจริงคุณไจล์สฯ มองลึกลงไปอีกหน่อย ถามความเห็นของคนอื่นๆ มากกว่าของตัวเองอีกสักนิด แล้วจะพบเองว่า มวลชนปัจจุบันเก่งกว่าที่คุณไจล์สฯ เชื่อ มวลชนเขารู้ว่าใครเป็นใครในแกนนำและองค์กรนำ วันนี้เขายังยอมเดินตามก็เพราะเราอยู่ในขั้นตอนแบบ นปช.ฯ แต่วันหนึ่งเมื่อเงื่อนไขยกระดับขึ้น เขาก็จะเดินแนวปฏิวัติอย่างมั่นใจด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครชี้นำ ส่วนจะเป็นแดงสยามหรือไม่ขึ้นอยู่กับมวลชนในวันนั้น โดยไม่มีใครบอกได้ คุณไจล์สฯ ซึ่งเป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่เทพเจ้า ก็ย่อมจะไม่รู้เช่นกัน

สรุปแล้วการถกเถียงระหว่างคุณธิดาฯ กับคุณสุรชัยฯ นั้น เป็นเรื่องของแนวความคิดที่ลึกซึ้ง คนเสื้อแดงที่มีสติและไม่คลั่งระบบพรรคพวกจะได้รับประโยชน์มากจากการถกเถียงแบบนี้ ขอให้พิจารณาดูให้ดีเถิด

เพียงอย่าเผลอมองว่า การปฏิวัติคนละขั้นตอนคือความขัดแย้ง นั่นจะผิดจุดมากไปหน่อยครับ.

------------------------------------------------------------------------------------------------
สนับสนุน "กาหลิบ" และทีมงาน สมัคร SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com /บล็อก : http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

ส.ส.ปชป.แจ้งจับ"ทักษิณ-อัมสเตอร์ดัม-บก.ฟ้าเดียวกัน"ข้อหาหมิ่นสถาบัน-ศาล


by TPNews, 2011-02-20 23:17:51

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายโรเบิรต์ อัมสเตอร์ดัม ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการวารสารฟ้าเดียวกัน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีจัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือเรื่อง "สมุดปกขาวการสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ" โดยอ้างว่า มีข้อความหมิ่นสถาบัน รวมทั้งกล่าวหาศาลว่าถูกครอบงำยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามอำเภอใจ

"ผมเคยยื่นเรื่องเสนอต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 เพื่อขอให้เสนอเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 3 อย่างเด็ดขาด แต่ผ่านไปกว่า 3 เดือนแล้ว ในฐานะ ส.ส. จึงเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 3 ด้วยตนเอง โดยนำหลักฐานเป็นหนังสือดังกล่าวมามอบไว้ให้พนักงานสอบสวน"นายวัชระกล่าว และว่า วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปที่ศาลฎีกา สนามหลวง เพื่อยื่นหนังสือดังกล่าวมอบให้กับประธานศาลฎีกา เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ในหนังสือดังกล่าวไม่ได้ระบุชื่อผู้พิมพ์ผู้โฆษณาที่มีชื่อ นายธนาพล อิ๋วสกุล บก.สนพ.ฟ้าเดียวกันแต่อย่างไร

----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : นสพ.ประชาไทออนไลน์

มั่นใจไต่สวนคำร้องขอประกันแกนนำแดง


by TPNews, 2011-02-20 22:48:00

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นทนายความรับผิดชอบการขอประกันแกนนำ นปช.กล่าวถึงการไต่สวนคำร้องขอประกันตัว 7 แกนนำ นปช. ของศาลอาญา ในวันที่ 21 ก.พ. นี้ว่า ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยได้ขอให้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้ง 7 คนจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาเบิกความในช่วงเช้าด้วย ขณะเดียวกันได้ประสานให้นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีต ประธาน นปช. จำเลยร่วมคดีก่อการร้ายที่ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวไปแล้ว มาร่วมเป็นพยานเบิกความเปรียบเทียบลักษณะความผิดที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาเหมือนกัน

นอกจากนี้ตนยังขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานซึ่งเป็นบุคคลภายนอกด้วย คือนายคณิต ณ นคร ประธาน คอป. หรือตัวแทน ซึ่งตนได้ประสานนายคณิต อีกทางหนึ่งด้วย ก็ได้รับการยืนยันว่าจะเบิกความในช่วงเวลา 13.00 น. รวมทั้ง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เตรียมไว้เป็นพยานเบิกความช่วงเวลา 14.00 น. ซึ่งหากไม่มีเหตุขัดข้อง บุคคลทั้งสองจะเดินทางมาศาลเพื่อเป็นพยานร่วมไต่สวน

----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : นสพ.ประชาไทออนไลน์

SMS-TPNews 20-2-54

1. "ตู่" โชว์สูติบัตร "มาร์ค" (Waplink)

2. "นปช.นัดชุมนุมใหญ่12มี.ค.อีกหากไม่ให้ประกันแกนนำ นัดแถลงชัดเจน23กพ.13น."

3. "มาร์คอ้างยูเนสโกคล้อยตามไทย ระงับขึ้นทะเบียนพระวิหาร หลังโทรคุยผอ.ใหญ่"

4. "มาร์ค"ถกแก้น้ำมันปาล์มขาด22กพ. มอบ"สุเทพ-ไตรรงค์"ดูนำเข้า1.2แสนตัน

5. "แม่ทัพภาค2เผย"ฮุนมาเนต" (ลูกช.ฮุนเซน)มาเอง ลงนาม8ข้อตกลงหยุดยิงไทย-เขมร"

6. "เริ่ม 23กพ.ขายน้ำมันปาล์มในเซเว่น ขณะ DSI งดตรวจโรงงานราชา ไปแค่มรกต"

7. "โฆษกพท.แฉสาวชื่อ "อ." เอี่ยวโกงน้ำมันปาล์ม/ปชป.ยันรัฐเร่งแก้ขาดตลาด"

8. "ปธ.วิปฯรบ.ไม่หวั่นพท.นำ3ประเด็นล้มเหลวอภิปราย ท้ามีข้อมูลเด็ดรีบแจ้งดำเนินคดี"

9. "รอง ผกก.ตม.สระแก้ว เผยตลาดโรงเกลือกลับมาคึกคักอย่างมาก-ชายแดนเริ่มสงบ"

-----------------------------------------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

'ฮุนมาเน็ต'เจรจาไทยหยุดยิงชั่วคราว


by TPNews, 2011-02-20 00:57:32

(19 ก.พ.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.อ.นิพัทธ ทองเล็ก อดีตเจ้ากรมชายแดนทหาร พล.ต.ชวลิต ชุณประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยนายทหารระดับผู้บังคับการกรมในพื้นที่รวม 12 คน ได้หารือกับ พล.ท.ฮุน มาเน็ต รองผบ.ทบ.และ ผบ.หน่วยทหารองครักษ์ บุตรชาย สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พล.ท.เจีย มอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา โดยคณะของไทยเดินทางเข้าไปที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวร ไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อหารือกับคณะของกัมพูชาที่ร้านอาหาร ซำเมา จังหวัดอัลลองเวง

พล.ท.ธวัชชัย เปิดเผยว่า บรรยากาศในการพูดคุยกับผู้นำทหารกัมพูชาเกี่ยวกับการหยุดยิง เป็นไปด้วยความชื่นมื่น มีบรรยากาศที่เป็นมิตรภาพต่อกัน ซึ่งจะเป็นการนำไปสู่สันติสุขบริเวณเขาพระวิหาร ส่วนข้อสรุปนั้น เป็นไปในแนวทางที่ดี เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน

มีรายงานว่าในการพูดคุยครั้งนี้ ได้หารือถึงแนวปฏิบัติในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร โดยสองฝ่ายยังย้ำที่จะปฏิบัติตามข้อหารือก่อนหน้านี้และลงนามในข้อตกลง 8 ข้อ เช่น ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ห้ามเพิ่มกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ ไม่วางกำลังเผชิญหน้ากัน ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในพื้นที่ เช่น สร้างถนน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาย้ำว่าจะพยายามมควบคุมระดับปฏิบัติในพื้นที่ให้ได้

แหล่งข่าวที่ได้ร่วมคณะเดินทางครั้งนี้ เปิดเผยว่า การหารือเริ่มเวลาประมาณ 10.30 น.ใช้เวลาหารือเกือบ 2 ชั่วโมง ถือเป็นการหารือปกติ เพราะในพื้นที่มีการพูดคุยตลอดเวลาโดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยระดับพื้นที่แต่หาข้อยุติไม่ได้ สองประเทศจึงส่งสัญญาณให้ทหารผู้ใหญ่ได้คุยกัน คือ พล.อ.ดาว์พงษ์ กับ พล.ท.ฮุน มาเน็ต เรียกได้ว่า เป็นการหารือหยุดสถานการณ์ชั่วคราว ซึ่งการผลการพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้เป็นข้อยุติหรือผูกพันไปถึงการประชุมรมต.ต่างประเทศอาเซียนวันที่ 22 ก.พ.นี้ เรื่องหลักที่พูดคุย คือ มาตรการในการป้องกันและแนวทางไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดถึงขั้นใช้อาวุธ หรือ ปะทะกันของทหารสองฝ่าย ได้ข้อตกลงร่วมกัน 8 ข้อ

"ในกรณีที่จะเกิดปัญหาเบื้องต้นทหารสองฝ่ายจะพูดคุยกันผ่านวิทยุสื่อสารไอคอม โดยเอาระดับทหารผู้ใหญ่มาพูดกัน แต่ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ที่ผ่านมา พูดถึงสถานการณ์ในอนาคตว่าจะแก้ไขอย่างไร การหารือครั้งนี้ไม่ใช่พูดว่าหยุดปะทะกันอย่างเดียว แต่เมื่อมีเหตุการณ์ต้องว่ากันไป แต่ถ้าอยู่แบบไม่ต้องรบต้องทำอย่างไรต่อไป เป็นการหารือแบบหยุดยิงชั่วคราว" นายทหารผู้นี้ ระบุ

-----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : คมชัดลึก

แกนนำนปช.ถูกหมายจับโผล่หลังเวทีม็อบ


by TPNews, 2011-02-20 01:08:23

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำนปช. ซึ่งถูกออกหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อปี พ.ศ.2553 ได้มาปรากฏตัวบริเวณด้านหลังเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือน้องเดียร์ ลูกสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ถูกสไนเปอร์ยิงเสียชีวิตบริเวณสวนลุมพินี เดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อพูดคุยกับผู้ชุมนุม โดยน.ส.ขัตติยาประกาศว่าจะขอต่อสู้ร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดง และขอให้คนเสื้อแดงรับเป็นลูกสาวอีกครั้งหนึ่ง และการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในวันนี้บิดาที่เสียชีวิตกำลังมองดูพวกเราอยู่บนฟ้า และสักวันพวกเราจะต้องได้รับชัยชนะ ขอให้ทุกคนสู้ต่อไป

-----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

"จตุพร"โชว์สูติบัตร"อภิสิทธิ์"สัญชาติอังกฤษ



by TPNews, 2011-02-20 00:43:28

เมื่อเวลา 19.15 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทย และแกนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้กล่าวปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ในวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เจ้าของสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม และที่ปรึกษากฎหมายของกลุ่มนปช. ได้เดินทางไปยังอังกฤษ เพื่อคัดสำเนาสูติบัตรของนายอภิสิทธิ์ ที่สำนักงานทะเบียนกลาง พบว่าในสูติบัตรระบุว่า นายอภิสิทธิ์เกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 1964 หรือ พ.ศ. 2507 ซึ่งอังกฤษถือว่าคนที่เกิดในอังกฤษก่อน พ.ศ.2526 มีสัญชาติอังกฤษและต้องมีสัญชาติอังกฤษไปตลอดชีวิต หากนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าสละสัญชาติอังกฤษ มาถือสัญชาติไทยแล้ว ต้องเอาใบสละสัญชาติมาแสดง แต่พอนักข่าวถามถึงสัญชาติ นายอภิสิทธิ์สัญชาติใด นายอภิสิทธิ์กลับบอกเพียงว่า ผมไม่ได้ถือสัญชาติมอนเตเนโกร

"ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่ได้ถือสัญชาติอังกฤษ ก็ต้องนำใบสละสัญชาติมาแสดง นายอภิสิทธิ์มีสัญชาติไทยได้ เพราะมีพ่อแม่เป็นคนไทย นายอภิสิทธิ์มีสัญชาติอังกฤษได้เพราะเกิดที่นิวคาสเซิล ดังนั้นนายอภิสิทธิ์เป็นคน 2 สัญชาติ คนเสื้อแดงมีความจำเป็นเหลือช่องทางเดียว ที่จะนำนายอภิสิทธิ์และพวกขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ" แกนนำเสื้อแดงกล่าว

-----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

SMS-TPNews 19-2-54

1. ศาลไม่ให้ประกัน ‘ดา ตอร์ปิโด' (Waplink)

2. "13น.วันนี้ เสื้อแดงรวมตัวราชประสงค์-เดินไปศาลฎีกา(สนามหลวง) อ่านจ.ม.แกนนำฯ"

3. "ด่วน! แดงสยามเปลี่ยนแผน พบกันที่วัดปทุมฯ ก่อนเช้านี้ ปักหลักจนถึงค่ำย้ายไปเจดีย์ขาว"

4. "20กพ.12-14น. แดงเชียงรายนัดทำ Flash Mob ที่ Big C เชียงราย ติดต่อ 0864207950"

5. "DS I สุ่มตรวจแมคโคร,โรงงานมรกต สืบตุนน้ำมันปาล์มขายเกินราคา"

6. "ตู่" เตรียมโชว์หลักฐานการแจ้งเกิด "มาร์ค" ปท.อังกฤษ เวทีปราศรัยคืนนี้

7. "6 มีค.เชิญแข่งโบลิ่งชิงถ้วยดร.อภิวันท์ ชั้น4 เดอะมอลล์บางกะปิ-0817707349"

8. "แดงสยามเคลื่อนพลตั้งเวทีปราศรัยคู่ขนาน "นปช" ที่เจดีย์ขาว สนามหลวง"

9. วัชระ-ส.ส.ปชป.แจ้งจับ "ทักษิณ-ทนายตปท.-บ.ก.ฟ้าเดียวกัน" กล่าวหาเขียนหนังสือ"ปกขาว"หมิ่นสถาบันฯ

---------------------------------------------------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ศาลไม่ให้ประกัน ‘ดา ตอร์ปิโด’


by TPNews, 2011-02-18 23:12:31

17 ก.พ.54 หลังศาลอุทธรณ์สั่งยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ตัดสินโทษ 18 ปีแก่นางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปกุล ในข้อหาหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยสั่งให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเสียก่อนว่าการพิจารณาคดีปิดลับ นั้นขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

ล่าสุด วันนี้ (17 ก.พ.) นายประเวศ ประภานุกูล ทนายความของดารณีพร้อมนายกิตติชัย ชาญเชิงศิลปกุล ได้ทำเรื่องขอประกันตัวอีกครั้ง โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 ล้านบาท แต่ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า "พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดตามฟ้องมีอัตราโทษสูง ตามพฤติการณ์แห่งคดีและลักษณะการกระทำนำมาซึ่ง ความเสื่อมเสียสู่สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะ ประกอบกับศาลอาญาและศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมาแล้ว ทุกครั้งโดยให้เหตุผลไว้ชัดแจ้ง ในชั้นนี้ เห็นว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยอาจหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง แจ้งคำสั่งศาลให้จำเลยและผู้ขอประกันทราบ" ทั้งนี้ ทนายความระบุว่า จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งอีกเร็วๆ นี้

------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : นสพ.ประชาไทออนไลน์

ตร.วางกำลัง 28 กองร้อย 9 ชุดเคลื่อนที่เร็วรับมือแดง คุมเข้มบ้านคนสำคัญ


by TPNews, 2011-02-18 23:19:19

วันที่ 18 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ศอ.รส. แถลงข่าวภายหลังประชุม ศอ.รส. ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.พ.

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เสนอแผนวางกำลังรักษาความปลอดภัยกลุ่มเสื้อแดง ที่นัดรวมตัวกันในวันนี้เวลา 11.00 น. ที่บริเวณแยกราชประสงค์ จากนั้นเวลา 13.00 น. จะเคลื่อนตัวไปยังศาลฎีกา และไปรวมตัวกันที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

โดยวางกำลังที่บริเวณศาลพระพรหม เอราวัณ จะมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกพระพรหม 1 กองร้อย บริเวณราชประสงค์ 2 กองร้อย และกำลังตำรวจดังกล่าวจะเคลื่อนตัวไปสมทบกับกำลังตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีก 6 กองร้อย บริเวณศาลฎีกา จะมีกำลังตำรวจ 2 กองร้อย ที่ทำเนียบรัฐบาลจะมีกำลังตำรวจอยู่ภายใน 14 กองร้อย ภายในรัฐสภา 3 กองร้อย และจะมีชุดเคลื่อนที่เร็ว 9 ชุด ชุดละ 30 นาย รวมถึงวางกำลังตำรวจบ้านบุคคลสำคัญด้วย

พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวต่อว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งด่านตรวจโดยรอบ กทม. ที่คาดว่าผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงจากต่างจังหวัดจะเข้ามาร่วมชุมนุม เนื่องจากเกรงว่าจะมีกลุ่มคนแอบแฝงนำอาวุธ ยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ปะปนเข้ามา

----------------------------------------------------------------------------------------------

ปชป.วอนม็อบคนไทยหัวใจรักชาติ เปลี่ยนจุดยืนช่วย"วีระ-ราตรี"


by TPNews, 2011-02-18 23:28:14

นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าววันที่ 18 กุมภาพันธ์เรียกร้องให้เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติเปลี่ยนจุดยืน โดยระงับการยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีของนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ซึ่งถูกศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุก เพื่อให้บุคคลทั้งสองได้รับอิสรภาพโดยเร็วที่สุด

นายอรรถพรกล่าวว่า เชื่อมั่นในเจตนารมณ์การต่อสู้ของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจต่อสู้ของนายวีระ และ น.ส.ราตรี ที่ต้องการเอาชีวิตพิสูจน์ความถูกต้อง แต่ถามว่าจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องไปพิสูจน์ในศาลเขมร ซึ่งไม่สามารถคาดหวังความยุติธรรมได้เลย

"เปรียบไปก็เหมือนนักมวยที่ขึ้นชกบนเวที ที่ทั้งกรรมการ ทั้งพี่เลี้ยง ทั้งนายสนาม เป็นฝ่ายคู่ต่อสู้หมดและให้คะแนนการชกล่วงหน้าไปแล้ว แล้วจะชกไปทำไม สู้ไปหาเวทีที่เป็นกลางและมีความยุติธรรมอย่างแท้จริงไม่ดีกว่าหรือ" นายอรรถพรกล่าว

นายอรรถพรกล่าวต่อว่า ชีวิตและอุดมการณ์ของนายวีระ และ น.ส.ราตรีมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการรักษาอธิปไตยของชาติ จึงอยากให้ได้รับอิสรภาพโดยเร็วที่สุดเพื่อกลับมาต่อสู้ตามอุดมการณ์ ส่วนผู้นำกัมพูชาจะมีท่าทีอย่างไรในเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดำเนินการเจรจาต่อไป

"ต้องยอมรับว่า การที่คุณวีระและคุณราตรีถูกลงโทษสถานหนักเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากประเด็นการเคลื่อนไหวในประเทศไทย จึงไม่ควรนำอิสรภาพของบุคคลทั้งสองมาเป็นประเด็นในทางการเมือง ชีวิตคุณวีระและคุณราตรี ตลอดจนน้ำตาของผู้เป็นแม่ควรจะมีน้ำหนักมากกว่าประเด็นอื่น" นายอรรถพรกล่าว

-----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

ส.ส.กลุ่มเฉลิมจวกมิ่งขวัญไร้ศักยภาพผู้นำศึกซักฟอก


by TPNews, 2011-02-18 23:50:55

ภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2554 ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ปรากฎว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.พ. กลุ่มส.ส. 5 - 6 คน ที่ใกล้ชิดกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้าหารือกับร.ต.อ.เฉลิมที่ห้องทำงานผู้นำฝ่ายค้าน อาคารรัฐสภา 1 ถึงการอภิปรายของนายมิ่งขวัญที่ผ่านมา โดยต่างแสดงความเห็นว่านายมิ่งขวัญนั้นไม่มีศักยภาพเพียงพอในการเป็นผู้นำอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะการอภิปรายของนายมิ่งขวัญที่ใช้สไลด์นั้นทำให้ผู้ฟังไม่สนใจคนพูด รวมทั้งข้อมูลยังไม่แน่น การอธิบายข้อมูลย้อนหลังก็ไกลเกินไป นอกจากนี้ น้ำเสียงที่พูดก็ยังใช้ไม่ได้ ไม่มีการเน้นน้ำเสียงหนัก-เบา และไม่มีบทสรุป เท่ากับเป็นการเปิดช่องให้รัฐบาลตอบโต้ได้ และที่สำคัญ การอภิปรายงบประมาณกลางปีครั้งนี้ดูแปลก เพราะเมื่อนายมิ่งขวัญอภิปรายจบกลับมีกองเชียร์ปรบมือให้กำลังใจ ซึ่งไม่เคยมีใครทำอย่างนี้มาก่อนในรัฐสภา

ส.ส.กลุ่มใกล้ชิดร.ต.อ.เฉลิม คนหนึ่งกล่าวว่า การอภิปรายของนายมิ่งขวัญทำให้ทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจต่างเครียดไปตามๆ กัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน และแกนนำกลุ่มนปช.ยังถึงกับเอ่ยปากกับร.ต.อ.เฉลิมด้วยว่า หากร.ต.อ.เฉลิมไม่ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ก็จะขอไม่ร่วมอภิปรายด้วยเหมือนกัน ทั้งนี้ กลุ่มส.ส.ที่สนิทสนมกับร.ต.อ.เฉลิมมีแนวคิดที่จะรวมตัวกันเพื่อขอให้นายวิทยาเป็นผู้นำส.ส.ในการนำดอกไม้มาเชิญให้ร.ต.อ.เฉลิมเข้าร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ร.ต.อ.เฉลิมที่นั่งฟังอยู่ด้วย มีสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะปฏิเสธว่า ตนได้ตอบปฏิเสธไปแล้ว และที่ผ่านมาคนใกล้ชิดนายมิ่งขวัญก็ออกมาพูดกีดกันตนตลอดเวลา ซึ่งการพูดอย่างนั้นเหมือนกับไม่ให้เกียรติกัน ไม่ต้องการให้ตนร่วมอภิปรายด้วย ดังนั้นตนได้บอกไปแล้วว่าจะไม่ร่วมอภิปรายด้วยก็คือจะไม่ร่วมอภิปรายด้วย ขอให้เหลือวิญญาณเฉลิมเอาไว้บ้าง แต่ส.ส.กลุ่มที่ใกล้ชิดร.ต.อ.เฉลิมคนดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การอภิปรายแบบที่นายมิ่งขวัญทำนั้นมีแต่จะโดนพรรคประชาธิปัตย์กระทืบตายกลางสภา เรื่องนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องหาวิธีแก้ไขปัญหา เพราะเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณเองก็คงจะติดตามฟังการอภิปรายของนายมิ่งขวัญด้วยเช่นกัน

----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

SMS-TPNews 18-2-54

1. "ฮุนเซนแถลงเสนอ4ข้อ"ไทย-เขมร"หยุดยิงถาวร-ขอปธ.อาเซียนหรือตัวแทนร่วมด้วย"

2. "ใครได้ใครเสีย" โดย กาหลิบ (Waplink)

3. "ส.ส.-ส.ว."ถล่มแนวคิด"สมบัติ" อัด"ใช้อะไรคิด" "จตุพร"เล่นแรงบอกเฟอะฟะ

4. "ม็อบรักชาติฯ" ปลด "ณฐพร" พ้นทนายอ้างไส้ศึกรัฐ-25ก.พ.บินพบ "วีระราตรี"

5. "สุเทพยันพร้อมฟันนักการเมืองมีเอี่ยวน้ำมันปาล์มทุกคนไม่ว่าจะชื่อย่ออะไร"

6. "เชิญเล่นกอล์ฟหาทุนปล่อยนักโทษเสื้อแดง26กพ. สนามDYNASTY โทร.082-6301700"

7. “มาร์ค” ปัดไม่รู้เขมรเตรียมยื่นเรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชาต่อศาลโลก

8. "พท.เตือนรัฐปล่อยกู้ "แท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์-หาบเร่" อย่าสองมาตรฐาน"

9. "19-21ก.พ.แดงสยามจัดปราศรัยรำลึกเหตุการณ์ฯ ครบรอบ9เดือน บริเวณเจดีย์ขาว สนามหลวง"

-----------------------------------------------------------------------------------------------

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ใครได้ใครเสีย โดย กาหลิบ


by TPNews, 2011-02-17 23:18:36

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง ใครได้ใครเสีย
โดย กาหลิบ

ศักดินา-อำมาตย์ไทยดีใจกันยกใหญ่ เมื่อได้ยินข่าวว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือ UNSC ลงมติไม่รับพิจารณาปัญหาสถานการณ์ชายแดนและเหตุปะทะหลายรอบระหว่างไทยและกัมพูชา แต่กลับแนะนำให้สมาคมประชาชาติตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (ASEAN) เป็นผู้รับเรื่องแทน

เขาคงนึกว่าเป็นชัยชนะ จึงรีบแข่งกันออกข่าวกันละล่ำละลักในทำนองว่า กัมพูชาหน้าแตกสลายเสียแล้วในองค์การสหประชาชาติ แล้วก็รีบส่งข่าวไปยังคนใหญ่บนตึกสูงว่าเป็นผลงานของตน

นี่คือธรรมชาติของระบอบศักดินา-อำมาตยาธิปไตยไทยในยามกระแสน้ำเชี่ยวใกล้เปลี่ยนแปลง ใครหาเสียงใส่ตัวอย่างไรได้ก็ต้องรีบทำ ถึงเวลาเขากระดิกนิ้วให้ยุบ ยึด หรือยืด (อายุรัฐบาล) ออกไป ตัวเองจะได้ส่วนแบ่งแห่งอำนาจนั้นบ้าง

ประเด็นคือเรื่องนี้เป็นชัยชนะของใครกันแน่?

เรารู้กันดีว่างานแบบนี้คือภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งมีสภาพจริงเป็นกระทรวงกิจการภายนอกของระบอบศักดินา-อำมายาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น พี่น้องคนไทยในต่างประเทศที่จำเป็นต้องขอพึ่งบริการของสถานเอกอัครราชทูตไทย สถานกงสุลใหญ่ไทย หรืออื่นๆ จะรู้ซึ้งว่าข้าราชการในทุกระดับ ลูกจ้างและพนักงานของรัฐทุกหน้าที่ที่สังกัดกระทรวงนี้ เขามิได้มีหัวใจบริการมวลชนคนเดินดินแต่อย่างใดเลย

บ่อยครั้งที่คนไทยต้องสะเทือนใจกลับออกมาด้วยความรู้สึกว่าเป็นประชาชนชั้นสอง

ผลจากการนี้ทำให้การวิ่งเต้นแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อขอให้ UNSC มีมติเช่นนั้นเกิดขึ้น จะเรียกว่าเป็นผลงานทางการทูตเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจในเมืองไทยก็ได้ สายพันธุ์อย่างนี้ก็ชัดเจน มิฉะนั้นเขาจะตั้งเอาคนอย่าง นายกิตติพงศ์ ณ ระนอง ก้นกุฏิของ นายกษิต ภิรมย์ เป็นเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติทำไมตั้งแต่ต้น

แต่ผลประโยชน์ที่เขาได้รับก็มีเพียงเท่านั้น

ในกรอบอาเซียนก็ไม่ได้แปลว่าความกระหายสงครามของระบอบไทยจะไม่ถูกฉีกหน้ากาก ตรงกันข้าม ขณะนี้ประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียนเขากำลังมองระบอบโบราณของไทยอย่างรังเกียจ สื่อไทยหากมีจรรยาบรรณหลงเหลืออยู่ในตัวบ้าง ก็ควรเสนอความจริงให้คนไทยทั่วประเทศเขารู้ว่าเสียงข้างมากในอาเซียนวันนี้เป็นของฝ่ายกัมพูชา

การขุดความขัดแย้งชายแดนที่เก่าสุดกู่มาหาเรื่องจนเกิดการรบพุ่งกับกัมพูชา แปลว่าจากนี้ไป เจ้าของระบอบไทยก็สามารถเปิดสงครามกับเมียนมาร์ ลาว และมาเลเซียได้ทุกเมื่อ คนไทยส่วนมากยังไม่รู้ว่าเขตแดนทั้งสามด้านที่ติดต่อกับไทยล้วนมีกรณีพิพาทกันทั้งนั้น ไม่มีเว้นเลยแม้แต่ด้านเดียว

กระทรวงการต่างประเทศไทยเก่งขนาดไหน ก็ลองพิจารณาดู เพื่อนบ้านรอบไทยทั้งสี่ทิศล้วนมีปัญหากับไทยและเกลียดชังรัฐบาลไทยทั้งสิ้น

เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แถมด้วยความเห็นใจฝ่ายประชาธิปไตยที่แสดงออกชัดโดยฟิลิปปินส์กับบรูไนในฐานะสมาชิกอาเซียน เท่ากับว่าอย่างน้อยมีสมาชิกอาเซียนหกประเทศแล้วที่เขาพร้อมแสดงจุดยืนเช่นเดียวกับกัมพูชา

แล้วเวียดนามอีกเล่า ใครคิดว่าเขาจะหันมาเห็นใจรัฐบาลไทย คนๆ นั้นก็คงปัญญาอ่อน

สิริรวมแล้วก็ ๗ ประเทศ สิงคโปร์นั้นเขาบำเพ็ญตนเป็นพ่อค้าก็ปล่อยเขาไป อินโดนีเซียดำรงฐานะเป็นประธานอาเซียนในปีนี้อยู่ ก็ขอให้ทำหน้าที่เป็นประธานไป ไม่ต้องแสดงจุดยืน

แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังมิใช่ประเด็นหัวใจของเรื่อง

มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ส่งเรื่องไปยังอาเซียนนั้น แท้ที่จริงมีความหมายว่าสถานะในกรรมสิทธิ์เหนือปราสาทพระวิหารมิได้เปลี่ยนแปลงไปเลย เพราะไม่ได้มีหลักการใหม่ใดๆ มามอบให้

ในนาทีนี้ องค์การสหประชาชาติจึงยังยืนยันว่า กรรมสิทธิ์เหนือปราสาทพระวิหารยังเป็นของชาวกัมพูชา และกระบวนการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก็ควรจะดำเนินต่อไปตามที่ยูเนสโกเสนอ

ทหารหาญและพี่น้องประชาชนที่ระบอบโบราณของไทยบังคับให้ไปตาย ร่างกายพิการ และบาดเจ็บหนักบ้างเบาบ้างอยู่ที่ชายแดนด้านอำเภอกันทรลักษณ์ จึงเป็นความสูญเสียฟรี โดยที่ประเทศไทยไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลยแม้แต่น้อยนิดจากงานนี้

เจ็บใจไหมครับ คนไทยที่รักชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่รักชาติจนน้ำลายไหลทั้งหลาย

คราวหน้าเขาสั่งยิง เปลี่ยนเป้าหมายกันสักทีดีไหมท่าน?

-----------------------------------------------------------------------------------------------
สนับสนุน "กาหลิบ" และทีมงาน เชิญสมัคร SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com /บล็อก : http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

"ฮุนเซน"แถลงขอไทยลงนามหยุดยิงถาวรกับกัมพูชา

by TPNews, 2011-02-18 00:28:32

17 ก.พ. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกแถลงข่าวในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ถึงปัญหาชายแดนไทย-เขมรว่า จะขอให้ประเทศไทยลงนามในข้อตกลงหยุดยิงถาวร ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหาร ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศกลุ่มประเทศอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นี้

โดยได้เสนอ 4ข้อตกลงในการหยุดยิงถาวร คือ

1.ไทยและกัมพูชาตกลงจะหยุดยิงถาวร ไม่มีการปะทะทางอาวุธอีกตลอดกาล

2.ไม่มีการเคลื่อนพลในระยะนี้ ทั้งสองฝ่ายจะประจำการในจุดเดิมระหว่างรอมติเรื่องการวัดและปักปันเขตแดน

3.ไทยและกัมพูชาสนับสนุนให้ผู้บัญชาการทหารของทั้งสองฝ่ายเปิดการเจรจากันเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ให้สถานการณ์กลับไปเหมือนก่อนเกิดการยิงปะทะใน วันที่ 15 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา

และ 4. กัมพูชาจะขอให้สมาชิกอาเซียนดูแลการหยุดยิงเพื่อรับประกันผล และถ้าหากไทยไม่ตกลง กัมพูชาก็พร้อมให้สมาชิกอาเซียนส่งกองกำลังไปประจำการในดินแดนกัมพูชาเพื่อสังเกตการณ์และรับประกันการหยุดยิง

ส่วนการเจรจานั้นทาง สมเด็จฮุนเซน ได้กล่าวว่า ข้อพิพาทชายแดนกับไทยจะใช้การเจรจาแบบพหุภาคีเท่านั้น การประชุมทุกอย่างหรือแม้แต่การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี ต้องมีประธานหรือตัวแทนอาเซียนเข้าร่วมด้วย

“จะดียิ่งขึ้นไปอีกหากประธานอาเซียนได้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว และเราจะไม่ยอมถอยหลังในเรื่องปราสาทพระวิหารเพราะเป็นมรดกที่บรรพบุรุษให้ไว้” นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าว

อย่างไรก็ดี กรณีที่มีข่าวว่า นายวีระ สมความคิด และ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ จะขอภัยโทษนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากโทษดังกล่าวเป็นข้อหาจารกรรมข้อมูล จะมาร้องขอให้นำเรื่องไปขอพระราชทานอภัยโทษ จากสมเด็จพระนโรดมสีหมุนี ไม่ได้ โดยต้องเป็นไปตามกฎหมาย ต้องได้รับโทษไปสักระยะหนึ่งก่อน อย่างน้อย 2 ใน 3 ส่วน ก่อนที่จะมีการพิจารณานิรโทษต่อไป

ขณะที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องดังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ข้อตกลงหยุดยิงถาวรเป็นเรื่องที่ไกลเกินไป การแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องคุยกันและตนยังย้ำคำเดิมว่า การหารือในกรอบทวิภาคีจะดีที่สุด

------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : Mthai News

มาร์คไม่ขัดเจรจาพธม. แต่ขอให้จริงใจ


by TPNews, 2011-02-18 00:35:09

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ขัดข้องที่จะพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในเรื่องความเข้าใจที่ยังไม่ตรงกันจากกรณีปัญหาไทย-กัมพูชา เพียงแต่ต้องการให้กลุ่มพันธมิตรฯ มีความจริงใจและไม่อยากให้การพูดคุยกันต้องนำไปสู่การขยายผลในเวทีนานาชาติ หรือทำให้กัมพูชาได้รับประโยชน์

นายกรัฐมนตรี ยังได้เรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรฯ คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่นั้นเป็นการทำงานที่ต้องการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ คนไทยทั้ง 2 คนที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก ตลอดจนการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงทำความเข้าใจกับเวทีนานาชาติด้วย

ส่วนการให้ความช่วยเหลือ 2 คนไทยดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบให้ทนายความและญาติของทั้ง 2 คน เป็นผู้ตัดสินใจถึงแนวทางการต่อสู้คดี ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และไม่อยากให้การกล่าวหาหรือนำความเดือดร้อนของทั้ง 2 คนมากลายเป็นการเล่นเกมทางการเมือง หลังจากที่มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่เดินหน้าให้ความช่วยเหลือ 2 คนไทยเต็มที่

อนึ่ง ล่าสุดนายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษากฎหมายเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ออกมาระบุว่า จะระงับการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกัมพูชาในคดีของนายวีระ และ น.ส.ราตรี โดยจะใช้แนวทางการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแทน

-----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : โลกวันนี้ออนไลน์

เหตุจลาจลเรือนจำราชบุรี เหตุนักโทษไม่พอใจจนท.ค้นของต้องห้าม

by TPNews, 2011-02-18 01:07:17

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย เหตุจลาจลเรือนจำราชบุรี นักโทษไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตรวจค้นเรือนนอนเจอสิ่งของต้องห้าม เตรียมตั้งกรรมการสอบเหตุสลายส่งผลนักโทษตาย 2

นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุจลาจลในเรือนจำกลางราชบุรีช่วงบ่ายของวานนี้(17 ก.พ.) ว่า ได้มอบหมายให้นายสมศักดิ์ รังสิโยภาส รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าไปดูแลสถานการณ์ซึ่งเหตุการณ์ได้สงบลงแล้วตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.เบื้องต้นได้รับรายงานสาเหตุที่เกิดการจลาจลน่าจะมาจากการเข้าตรวจค้นเรือนนอนของนักโทษในช่วงเช้า และพบว่ามีสิ่งของต้องห้ามเช่น เหล็กแหลม ซิมการ์ดโทรศัพท์ อยู่ในเรือนนอนจึงได้ทำการยึดและเรียกตัวไปสอบสวน จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่นักโทษต้องขึ้นเรือนนอนได้มีนักโทษส่วนหนึ่งประมาณ 30 คน แสดงความไม่พอใจผู้คุม และไม่ยอมขึ้นเรือนนอนและก่อเหตุจลาจล ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามจะให้เลิกรวมตัวแต่ไม่เป็นผล ทำให้ผู้บัญชาการเรือนจำต้องนำกำลังเข้าสลายจนเกิดการปะทะ

อย่างไรก็ตาม การใช้กำลังสลายการจลาจลส่งผลให้มีนักโทษเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่าในเรือนจำกลางราชบุรีมีนักโทษอยู่กว่า 3,000 คน แม้จะมีนักโทษร่วมก่อเหตุ 30 คน แต่การระงับเหตุไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนถึงการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : เนชั่นทันข่าว

SMS-TPNews 17-2-54

1. บก.ลายจุด รับบริจาครองเท้าเก่า (Waplink)

2. "ขบวนเกษตรกร-คนจน ระดมพลร่วม 5,000 คน ปักหลักชุมนุมยาวจี้รัฐแก้ปัญหาค้างคา"

3. "ตร.เร่งถอดเทปปราศรัยพธม. /สั่งคุมเข้มหลังพบมีด,เสื้อเกราะซุกตามเต๊นท์"

4. "ที่ปรึกษากม.กลุ่มคนไทยฯเผย"วีระ-ราตรี"ยอมขออภัยโทษ-ระงับอุทธรณ์สู้คดี"

5. "เทพเทือก"เต้นล้วงข้อมูลตุนน้ำมันจุกฟ้า ชาวบ้านอ่วมไก่ขยับขึ้นโลละ70บ"

6. "พท.จวกรัฐใช้ช่อง11ทำ"ไทย-เขมร"บานปลาย/"องอาจ"คาดโทษถอนสัญญาหากกระทบมั่นคงฯ"

7. "มาร์คเผยยังไม่คุยสุเทพยุบสภาก่อนมิย.- ฮุนเซนอาจหวนกลับถกJBC"

8. "วิชาญ-พท.ฉายเจาะข่าวร้อนฯ จากTnews ลั่นกระทบเขมร-องอาจแจงเป็นสิทธิ์สื่อ"

9. "18กพ.วันมาฆบูชา เสื้อแดงรำลึกถึงวีรชนฯ นัดใส่แดงไปเวียนเทียน ณ วัดปทุมฯ"

----------------------------------------------------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สื่อตาสว่างชุดใหม่ รวมเล่ม "กาหลิบ"



มาแล้วค่ะ สื่อ “ตาสว่าง” ชุดใหม่ เว็บบล็อกประชาธิปไตย 100% หรือ http://www.democracy100percent.blogspot.com/ ภูมิใจเสนอ รวมเล่ม “กาหลิบ” บทความการเมืองแนววิชาการ เข้มลึก เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในยุคประชาธิปไตยภายใต้ระบอบเผด็จการศักดินา-อำมาตยาธิปไตย เรื่อง “เมืองไทยหรือเมืองใคร?” เล่ม 1 และ เล่ม 2 (1 ชุดมี 2 เล่ม)

วางจำหน่ายที่ห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว : ร้าน Red Shop ชั้น 5, ร้านกาแฟ ชั้น 5 หน้าลิฟต์ (Red Living Room), ร้านขายของคนเสื้อแดง ชั้น 6 หน้าบันไดเลื่อน หรืออยู่ไกลไม่สะดวกมาซื้อด้วยตนเอง สามารถสั่งให้ส่งตรงถึงบ้านทางไปรษณีย์ โดยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร

สั่งซื้อได้ที่ 084-456 6794-5 หรือสั่งทางอีเมลล์ที่ : tpnews2009@gmail.com

ราคาชุดละ 200 บาท (2 เล่ม) ส่งทางไปรษณีย์ขอเพิ่มค่าส่ง (ลงทะเบียน) 50 บาท หรือชุดละ 250 บาท

-------------------------------------------------------------------------------------------
เนื้อหาภายในเล่ม

เมืองไทยหรือเมืองใคร? เล่ม 1

จำนวน 36 ตอน สะท้อนเหตุการณ์ระหว่าง 9 มิ.ย. – 1 ก.ย. 2553
1. ศัตรูของไพร่ไม่ใช่อำมาตย์
2. วิญญาณฆาตกร
3. การเมืองเรื่องสัตว์
4. สิ่งที่อภิสิทธิ์ไม่รู้
5. โลกเริ่มเข้าใจ
6. ลง ส.ส.หรือลงนรก?
7. ทูตหรือทาส?
8. คอยแกนนำ
9. งานลับอเมริกัน
10. ความตายของน้ำหวาน
11. เบื้องหลังตำแหน่งประธานสภาสิทธิมนุษยชน
12. ใครกลัวอนุสาวรีย์ปราบกบฏ (บวรเดช)?
13. แผนเสี้ยมเสื้อแดง
14. โรงพยาบาลบ้า
15. สยามเรียลลิตี้
16. ฆาตกรต่อเนื่อง
17. กัมพูชาสากล
18. ยาดี
19. เงื่อนไขแห่งความรุนแรง
20. ส.ส.แพ้ – แนวทางชนะ
21. ปกขาวเปลือยไทย
22. คดีเทพประทาน
23. มือระเบิด
24. เลือกตั้งระวังพลาด
25. วีรกรรมคุก
26. ผู้นำหาย
27. ขุดเรื่องพระวิหาร...สันดานใคร
28. ไล่กษิต
29. สนิมเนื้อใน
30. ฝันเปียก
31. ต้นทุนของขบวนการ
32. เอกสังคมกับหล่มการเมือง
33. เข้าใจเพื่อน
34. ใครคุมคณะสงฆ์?
35. สนามเล็กในระบอบใหญ่
36. ทางรอดวันนี้สีแดง (1)

เมืองไทยหรือเมืองใคร? เล่ม 2

จำนวน 39 ตอน สะท้อนเหตุการณ์ระหว่าง 3 ก.ย. – 4 ธ.ค. 2553
1. อย่าลืมสุรเกียรติ์
2. ทางรอดวันนี้สีแดง (๒)
3. ภาษาซาอุ
4. สมัครภาคสอง
5. สฤษดิ์น้อย-สฤษดิ์ใหญ่...ใครกำกับ?
6. เตรียมเผด็จการ
7. ปรับขบวน
8. นำแกน
9. อำมาตย์ใหญ่ในกะลา
10. นอกกะลา-ตาสว่าง
11. คัดกรอง
12. เผด็จการไม่เงียบ
13. รัฐสามัญชน-ธนบุรี
14. ๖ ตุลากับพฤษภาสองทมิฬ
15. เศรษฐกิจเสื้อแดง
16. บัวจมน้ำ
17. ไข่อะไร
18. ประจานตน
19. คลิปดับเทวดา
20. ร้ายกว่ารัฐประหาร
21. บาทแข็งเพื่อใคร
22. สองแนวรบ
23. น้ำท่วมและนองเลือด
24. ลูกน้องอันตราย
25. อาจารย์สุรชัย
26. รัฐขวาจัด (๑)
27. รัฐขวาจัด (๒-จบ)
28. น้ำท่วมระบอบไทย
29. ความสำคัญของ ๑๐ เมษา
30. ตลกสลับฉาก
31. นายกรัฐมนตรีสมัคร...สู่สุคติ
32. ช่วยแยกหน่อยเถอะ
33. บิดและเบือน
34. ประโยชน์ของประยุทธ์
35. กรรมเก่าของอำมาตย์
36. วันพนันของพันธมิตร
37. ศาลใคร?
38. พรรคของระบอบ
39. คอยธันวา

----------------------------------------------------------------------------------------

เหตุประหลาดในคดีดา ตอร์ปิโด โดย กาหลิบ


by TPNews, 2011-02-16 00:06:56

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง เหตุประหลาดในคดีดา ตอร์ปิโด
โดย กาหลิบ

โลกและไทยต่างรู้กันว่า นางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด คือผู้ต้องคำพิพากษาจำคุกถึง ๑๘ ปีในคดีดูหมิ่นและหมิ่นประมาทองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือองค์รัชทายาท หรือที่เราเรียกกันจนคล่องปากว่าดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา ๑๑๒ ของรัฐธรรมนูญ คดีความคิดคดีนี้ได้กลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทย ทำให้รู้กันทั่วไปว่าความผิดฐานนี้จะต้องรับโทษทัณฑ์ชนิดไร้ความเมตตาปราณี ไม่ให้ผุดให้เกิด และตอกย้ำความไม่เป็นนประชาธิปไตยจริงของบ้านนี้เมืองนี้

แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวันพุธที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ก็ขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ว่า ให้ยกเลิกโทษจำคุก ๑๘ ปีนั้นให้หมด รวมทั้งให้ย้อนกระบวนการทั้งหมดเสียใหม่โดยให้รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ว่าการพิจารณาคดีทั้งหมดควรทำเป็นการพิจารณาลับหรือไม่ เรื่องนี้คือคำร้องที่ฝ่าย ดา ตอร์ปิโด ร้องมานานนักหนาแล้ว แต่ศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมรับฟัง

สรุปแล้วในนาทีนี้ ดา ตอร์ปิโด กลายเป็นผู้ที่ไม่มีความผิดใดๆ ติดตัวเลย เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น

ทนายความของคุณดาฯ ประกาศทันทีว่าจะขอประกันตัวลูกความออกมาสู่อิสรภาพ เพราะถูกจำคุกมานานเกือบสามปีโดยไม่มีความผิด

หากจะพูดให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดก็คือเธอถูกจำคุกฟรีมาตลอดจนบัดนี้

เรื่องนี้ฟังแล้วดีใจแทนคุณดาฯ ก็ได้ หรือทำให้ยิ่งมองเห็นความชั่วร้ายของระบอบและระบบที่กุมชะตากรรมของคนไทย ๖๕ ล้านคนยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณก็ได้ แต่ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร คงต้องยอมรับว่างานนี้มีอะไรหลายอย่างที่แปลกประหลาดอยู่หลายประเด็น

ไล่ตั้งแต่เรื่องเล็กขึ้นไปเลย

ข้อแรก สิทธิ์ในการอุทธรณ์ของผู้ต้องคำพิพากษาจากศาลชั้นต้นควรเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่กรณีนี้คุณดาฯ แกต้องเสียเวลาในความเป็นมนุษย์ไปนานเกือบสามปีกว่าจะได้รับ ลองคิดดูว่าหากศาลเรียกเรื่องนี้มาพิจารณาในวันรุ่งขึ้น ดา ตอร์ปิโด ก็คงได้ออกมาสู่อิสรภาพตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาแล้ว สามปีในชีวิตของคนๆ หนึ่งถือว่ามากมาย ใครหน้าไหนจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความสูญเสียเหล่านี้?

ข้อสอง เมื่อศาลอุทธรณ์เอ่ยคำว่า ผู้ต้องขังเป็นผู้ไม่มีความผิด สภาพของความเป็นผู้ต้องขังควรหมดไปจากตัวในทันที ทำไมต้องเดือดร้อนให้ยื่นขอประกันตัวอีก เมื่อศาลชั้นต้นเป็นผู้ละเมิดขั้นตอนก็ต้องถือว่าเป็นความผิดของศาลโดยแท้ ไม่ใช่ความผิดของผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทำไมเธอจึงไม่ได้รับอิสรภาพโดยอัตโนมัติเล่า?

ข้อสาม อะไรอยู่เบื้องหลังงานนี้กันแน่ ข้อกฎหมายที่เพิ่งนึกขึ้นมาได้หลังผ่านไปเกือบสามปีหรือหน้าไหนมันเข้ามาแทรกแซงอำนาจตุลาการอย่างที่ทำมาตลอดชีวิตเข้าอีก หากเป็นประเด็นหลัง บางคนอาจจะพร้อมสรุปทันทีว่าบ้านนี้เมืองนี้มีความเมตตากรุณาอยู่ ทั้งที่พฤติกรรมของคนๆ นี้ชี้บอกเราตรงข้ามทั้งนั้นว่าเป็นคนใจอำมหิต ทุกครั้งที่เข้าแทรกแซงเพื่อ “ลดโทษ” ในคดีหมิ่นฯ ก็เป็นเรื่องของการรักษาชื่อเสียงภาพลักษณ์ของตนทั้งนั้น ไม่ได้เห็นแก่ความเป็นมนุษย์ของใครทั้งสิ้น แต่ฝ่ายรักษาระบอบ (ทั้งสีแดงและสีเหลือง) อาจนำเรื่องนี้มาโฆษณาชวนเชื่อให้เทิดทูนเหนือหัวกบาลกันต่อไปอีก

ข้อสี่ การพิจารณาคดีของศาลนั้น ตั้งอยู่บนสองฐานคือ สารบัญญัติ และวิธีบัญญัติ สารบัญญัติคือเนื้อหาและการตีความของกฎหมาย ส่วนวิธีบัญญัติเป็นเรื่องของกระบวนการทำงานของคนที่เป็นศาล เราพูดกันมามากแล้วว่า สาระของกฎหมายไทยมากมายมีปัญหา ขัดต่อหลักการประชาธิปไตยมากอยู่ แต่กรณี ดา ตอร์ปิโด ทำให้เรารู้ว่า ไม่เฉพาะสาระเท่านั้นที่มีปัญหา วิธีทำงานของศาลก็มีข้อบกพร่องอย่างฉกรรจ์ นอกจากจะไม่เคารพในสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยของประชาชนแล้ว ยังมีลักษณะส่งเสริมอำนาจของระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จอย่างเห็นได้ชัดด้วย แถมเมื่อสังคมจับผิดได้คาหนังคาเขาแล้ว ยังไม่มีบทบัญญัติใดที่แสดงว่าศาลชนิดนั้นต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไรเลย

กรณี ดา ตอร์ปิโด จึงอยู่ในระดับเดียวกับตัวของคุณดา ตอร์ปิโดเอง คือได้กลายเป็นบรรทัดฐานสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ฝ่ายประชาธิปไตยต้องใส่ใจกับเรื่องอย่างนี้และกำหนดให้เป็นวาระสำคัญที่ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยไม่ชักช้า เมื่อใดก็ตามที่ฝ่ายประชาชนได้อำนาจรัฐ

หากสนุกกับเกมเลือกตั้งและสถานภาพ ส.ส. จนคิดว่าประชาธิปไตยแปลว่าตัวกูและพรรคพวกของกูสบาย กินอยู่หรูหรา เงินเต็มท้องพระคลังส่วนตัว และมีเสียงข้างมากในสภา ไม่นานนี้อาจจะได้เห็น ดา ตอร์ปิโด อีกมากมายที่จะถูกบังคับขับไสเข้าสู่วงจรอุบาทว์ของกระบวนการยุติธรรมไทย นั่นคือเอามาตรา ๑๑๒ หรือกฎหมายคล้ายคลึงกันนี้มาฆ่าฟังหัวเชื้อประชาธิปไตยในแผ่นดินจนราบคาบ อย่างต่ำแกล้งให้ติดคุกสักสามปีโดยไม่มีความผิดเล่นโก้ๆ ก็ยังได้

ถ้าไม่ตั้งสติให้ดี วันหนึ่ง ดา ตอร์ปิโด คนใหม่อาจจะหมายถึงตัวคุณเอง.

----------------------------------------------------------------------------------------------
สมัคร SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com /บล็อก : http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

เฉลิม ชำแหละงบกลางปี ย้ำผลประโยชน์ต่างตอบแทน



by TPNews, 2011-02-16 22:57:28


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาวาระเรื่องด่วน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2554 (งบกลางปี) ช่วงบ่ายวานนี้ (16ก.พ.54) ยังเป็นการสลับกันอภิปรายระหว่างส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณตามร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจัดทำงบประมาณกลางปีครั้งนี้มีข้อบกพร่องด้วยกัน 5 ข้อ ได้แก่

1.รัฐบาลบิดเบือนข้อมูลตัวเลขโดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้จากภาษีของประชาชน

2.ไม่เป็นตามหลักเศรษฐศาสตร์ทั้งที่มีแนวโน้มเงินเฟ้อถึง 3-5%

3.เป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้และขาดรายละเอียดของโครงการ

4.ไม่มีงบประมาณการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งที่การช่วยเหลือปัญหาภัยพิบัติสามารถเอางบประมาณส่วนอื่นๆ มาเกลี่ยได้

5.เป็นการทำงบประมาณเพื่อผลประโยชน์ต่างตอบแทนเป็นไปเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้า อย่างเช่นการดำเนินการให้เบี้ยยังชีพคนชราและคนพิการเป็นการเอาใจพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่ควรให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มากกว่า

"รัฐบาลชุดนี้มีอำนาจพิเศษมองเห็นว่าไม่มีใครล้มล้างได้ เพราะมีตัวช่วยเยอะเลยทำให้เอกชนมีความเชื่อมั่น ไม่เหมือนรัฐบาลผมไม่มีทำเนียบรัฐบาลให้ทำงาน ทำให้นักธุรกิจไม่กล้าลงทุน ดังนั้น เศรษฐกิจที่ดีขึ้นไม่ได้จากตัวรัฐบาลเองแต่มาจากความเข้มแข็งของภาคเอกชน เป็นผลให้คนว่างงานลดลงเพราะภาคเอกชนแข็งแรงมีกำลังในการจ้างงาน ไม่ใช่มาจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นไม่ได้มาจากรัฐบาล อย่างเช่นยางพาราก็มาจากปัญหาน้ำท่วมทำให้ผลผลิตขาดแคลนและราคาสูงขึ้น" ร.ต.อ.เฉลิม อภิปราย

ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายต่อว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ สะท้อนถึงความไม่พร้อมของรัฐบาล ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ในกรณีที่รัฐบาลประกาศได้สนับสนุนงบประมาณ 200 ล้านบาทให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมให้ได้ 20% ถ้ารัฐบาลคิดอย่างนี้มันเชยไม่รู้เรื่อง เพราะการบังคับใช้กฎหมายไม่ต้องเป็นนโยบาย เป็นการฟ้องในตัวว่ารัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพราะเศรษฐกิจ ปัญหาอาชญากรรมคงลดลงในตัวเองโดยที่รัฐบาลไม่ต้องมีนโยบายออกมา

"การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเป็นไปได้อย่างยากลำบากมากเพราะฐานของการจัดเก็บภาษียังมีความเหลื่อมล้ำมาก เนื่องจากประชากรทั้งประเทศ 61 ล้านคน มีเพียง 2.3 ล้านคนเท่านั้นที่จ่ายภาษีดูแลคนทั้ง 61 ล้านคน และ ใน 2.3 ล้านคนมี 2.4 พันคนที่จ่ายภาษีรวมกันเกิน 10 ล้านบาทต่อปี ถ้าฐานการจัดเก็บภาษียังเป็นแบบนี้ไม่มีทางที่รัฐบาลจะสามารถสร้างประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการได้ เพราะประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีการกระจายรายได้ที่แย่ที่สุด และการจัดทำงบประมาณส่วนใหญ่รัฐบาลยังต้องกู้เงินอยู่เพื่อมาชดเชยงบประมาณ ที่ไม่สมดุล" ร.ต.อ.เฉลิม อภิปราย

ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายว่า ส่วนตัวเป็นห่วงประชาชนมากต่อการจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงเพื่อนำลงไปในพื้นที่ในครั้งนี้ เพราะบรรดากระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณส่วนใหญ่ ยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสอย่างมาก เช่น กระทรวงคมนาคม มีการเรียกผลประโยชน์ และฮั้วกับผู้รับเหมาก่อสร้าง และการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง กระทรวงพาณิชย์ มีปัญหาเรื่องการทุจริตผลผลิตกทางการเกษตรจนปลดผู้บริหารบางคน กระทรวงมหาดไทยมีปัญหาแต่งตั้งผู้บริหารกระทรวงทุกระดับรวมไปถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างอีกจำนวนมาก

"การบริหารราชการของรัฐบาลชุดนี้มีปัญหาความโปร่งใสเป็นอย่างมาก สะท้อนได้จากผลสำรวจจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ พบว่ารัฐบาลชุดนี้มีดัชนีการทุจริตลำดับที่ 84 ซึ่งเป็นลำดับที่แย่กว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผมเชื่อว่าท่านนายกรัฐมนตรีไม่โกง แต่ผมไม่เชื่อว่าท่านไม่รู้" ร.ต.อ.เฉลิม อภิปราย

ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายด้วยว่า เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด ปรากฏว่ามีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของคนในรัฐบาลได้ประโยชน์ โดยการเอาน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นไบโออดีเซล พอน้ำมันปาล์มเหลือน้อยก็สั่งมาจากต่างประเทศ บริษัทที่ขายน้ำมันปาล์มเหล่านี้ก็จะมีกำไรรกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ในผลประกอบการ รัฐบาลนี้กินแบบนกกระจอก นกกระจิบ พญาอินทรีย์ รัฐบาลชุดนี้แบ่งระดับการกินคอร์รัปชั่นเหมือนสัตว์ทุกชนิด" ร.ต.อ.เฉลิม อภิปราย

ภายหลังจากร.ต.อ.เฉลิม ใช้อภิปรายนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ตอนนี้เป็นการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ด้าน นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวชี้แจงว่า ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยมีการกล่าวหากระทรวงคมนาคมมากที่สุด คือ การจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากอุทกภัยว่าทำไมถึงมีการจัดสรรงบประมาณซ่อมถนนที่ยังมีสภาพดีอยู่ ในประเด็นนี้ขอชี้แจงว่า การซ่อมถนนโดยปกติแล้วจะมีอยู่ 3 ระดับ คือ

1.ซ่อมปกติ คือ การตัดหน้าบำรุงผิวในส่วนนี้จะใช้งบประมาณ 60,000 บาทต่อ 1 กิโลเมตร

2. ซ่อมตามอายุการใช้งาน ถ้าทำภายใน 3 ปีจะใช้เงิน 800,000 บาทต่อ 1 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็น 7 ปีจะใช้งบประมาณถึง 3 ล้านบาทต่อ 1 กิโลเมตร หากมากกว่านั้นจะใช้เงิน 5 ล้านบาท ดังนั้น เมื่องบประมาณไม่พอ การซ่อมแซมถนนจึงเลือกตามความจำเป็น

รมว.คมนาคม กล่าวชี้แจงต่อว่า ตอนเกิดเหตุภัยพิบัติน้ำท่วมกระทรวงคมนาคมได้ทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะกรมทางหลวงชนบท วันนี้ได้งบมา 2,000 กว่าล้านบาทก็ยังไม่พอ เพราะมีการประเมินความเสียหายมาแล้ว่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับถนนในความดูแลรับผิดชอบของกรมทางหลวงเสียหายทั้งหมดทั่วประเทศ 9,000 กว่าล้านบาท

"นับตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งจนมาถึงเหตุการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันนี้ผมได้ให้นโยบายว่า ถ้าใครทุจริตต้องรับผิดชอบ ขอให้ไปตรวจสอบข้าราชการกระทรวงคมนาคมได้ทุกที่ และวันนี้งบประมาณกลางปีที่ได้มาก็น้อยไม่ได้เป็นการซื้อพรรคภูมิใจไทย" นายโสภณ กล่าว

นายโสภณ กล่าวชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) เป็นโครงการที่มีการทำทีโออาร์ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามา ก่อนที่จะมาเปิดซองในรัฐบาลชุดนี้ และมีการเจรจาต่อรองจนสามารถลดราคาการก่อสร้างได้มากถึง 6,000 ล้านบาท ซึ่งถ้ามาดำเนินการเปิดประมูลกันในตอนนี้เชื่อได้เลยว่าจะต้องใช้เงินก่อสร้างมากกว่า 30,000 ล้านบาทแน่นอน

----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : Spring News TV

นปช.ปรับแผนชุมนุม19 ก.พ.รวมพล"ราชประสงค์"ไปศาลฎีกา



by TPNews, 2011-02-16 23:04:11


เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ขอยืนยันวันที่ 19 ก.พ.นี้นัดหมายชุมนุมเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนแปลงสถานที่ จากที่จะชุมนุมช่วงบ่ายถึงเย็นที่สี่แยกราชประสงค์ เปลี่ยนมาเป็นเวลา 13.00 น. นัดรวมตัวที่สี่แยกราชประสงค์ จากนั้นเวลา 15.00 น. เคลื่อนขบวนมาที่ศาลฎีกาสนามหลวงเพื่อยื่นดอกไม้ที่ศาล และกลับมาชุมนุมตั้งเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

"เนื่องจากวันที่ 19 ก.พ. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปทำราชพิธีบริเวณท้าวมหาพรหมในช่วงกลางคืน ดังนั้นจึงเปลี่ยน อีกทั้งนัดหมายครั้งนี้ทำเพื่อความเรียบร้อยบ้านเมืองไม่กระทบผู้ประกอบการ ราชประสงค์มากจนเกินควร" นายวรวุฒิกล่าวในการแถลงข่าว

ด้านธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการณ์แกนนำนปช. กล่าวว่า หลังกล่าวรำลึกวีรชนที่ราชประสงค์จะเคลื่อนมาศาลฎีกาสนามหลวง จากศาลฎีกามาอนุสาวรีย์จะอยู่ยาวจนดึกพอควรจะคล้ายเมื่อครั้งที่แล้ว แต่จะยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะคนจะมากขึ้น นอกจากนี้อีกเหตุผลหนึ่งคือวันที่ 21 ก.พ.จะมีการไต่สวนคดีการขอปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำนปช.

"ดังนั้นหลังจากเราชุมนุม 2 วัน จะดูว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้หรือไม่ ดังนั้นเราขอให้ไปให้มาก การต่อสู้ให้ใช้ความจริงเป็นอาวุธแต่ขอให้เพิ่มความกล้าและความสามัคคีเข้ามา จะทำให้การต่อสู้เราถูกต้องชนะยั่งยืนไม่ใช่ชนะแล้วมาปล้นอีก และวันที่ 21 ก.พ.มาดูว่าแกนนำจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่" นางธิดากล่าว

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า มีกระแสข่าวจะให้ประกันตัวเฉพาะแกนนำที่ไม่มีลักษณะฮาร์ดคอร์ นั่นคือ จะได้รับการประกันตัวเฉพาะ น.พ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ซึ่งไม่สามารถยอมรับได้ แต่ทุกคนต้องได้รับการพิจารณา

"วันที่ 19 ก.พ.นี้ขอให้ออกมาให้มาก ผมเชื่อว่าสถานการณ์จะมีการพลิกผัน และถ้าวันที่ 21 ก.พ.ยังไม่ปล่อยพวกเรา ถ้ากระบวนการยุติธรรมยังไม่ทบทวน เสาร์ที่ 12 มี.ค. เราจะไปศาลอาญาอีกจะไปกันอย่างนี้ ถ้ามีการปล่อยตัวเพียงแค่ 2 คน ผมขอกล่าวหาว่าศาลได้ตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาล" นายจตุพรกล่าว

------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

บก.ลายจุด รับบริจาครองเท้าเก่าสร้างหอสันติภาพ แดงทวงยุติธรรม19ก.พ.


by TPNews, 2011-02-16 23:18:33

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายนที สรวารี นายกสมาคมสร้างสรรค์อิสรชน แกนนำกลุ่มอาทิตย์ซาบซึ้ง กล่าวถึงกิจกรรมทางการเมืองในวันที่ 19 ก.พ. ว่า ตนจะนำสมาชิกไปร่วมจัดกิจกรรมกับกลุ่มแดงสยาม บริเวณภายในวัดปทุมวนาราม

โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 21.00 น. โดยภาคเช้า 10.00 น.จะเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนที่เสียชีวิต และวางดอกไม้เพื่อไว้อาลัยให้กับ น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงตาย พร้อมเพื่อนอาสาและคนเสื้อแดง รวม 6 ศพ บริเวณจุดเกิดเหตุหน้าวัดปทุมฯ โดยจะมีนายวสันต์ สายรัศมี หรือเก่ง กู้ภัย เดินทางมาร่วมงานด้วย หลังจากนั้นในภาคบ่ายก็จะเป็นการปราศรัยของสมาชิกกลุ่มต่างๆ ในประเด็นให้มีการปลดปล่อยประชาชนที่ถูกจับกุมคุมขังทั่วประเทศออกมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

นายนที กล่าวต่อว่า กิจกรรมในวันที่ 19 นี้จะจัดตั้งแต่วัดปทุมวนาราม ไปจนถึงสี่แยกราชประสงค์ โดยช่วงเย็นตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น.เป็นต้นไป ก็จะมีการปล่อยนกกระดาษแดงให้ทั่วบริเวณพื้นที่ จำนวน 1 ล้านตัว ซึ่งในวันนั้นจะทำให้พื้นที่ราชประสงค์และวัดปทุมฯ เต็มไปด้วยนกกระดาษแดง เพื่อเป็นการสื่อความหมายว่าสีแดงทุกกลุ่มที่อยู่บริเวณนั้น ถึงแม้จะมีความคิดแตกต่างกันบ้างแต่ก็ยังมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือประชาธิปไตย

นายนที กล่าวต่อว่า ในวันที่ 7 มี.ค. กลุ่มอาทิตย์ซาบซึ้งจะจัดกิจกรรม “2 ขาประชาธิปไตย” ครั้งที่ 3 โดยครั้งนี้จะปั่นขึ้นทางภาคเหนือ ซึ่งในวันนี้ตนจะเรียกประชุมทีมงานนักปั่นจักรยานอีกครั้งเพื่อสรุปว่าจะใช้เส้นทางใดบ้าง ที่ผ่านมา 2 ครั้งถือว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนได้เป็นอย่างดี

ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวเสริมว่า ส่วนกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มอาทิตย์สีแดงขณะนี้อยู่ระหว่างระดมรองเท้าเก่าจํานวนหลายพันคู่ เพื่อนํามาสร้างเป็นอนุสาวรีย์หอสันติภาพ ซึ่งความหมายของการที่นํารองเท้าเหล่านี้มาทําหอสันติภาพครั้งนี้ อย่างในต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เคยมีการนํารองเท้าบูทมาทําเป็นสัญญลักษณ์ เพื่อเป็นการต่อต้านสงคราม ซึ่งรูปแบบของตนนี้ก็จะมีความหมายเหมือนกัน เพื่อเป็นการต่อต้านสงครามที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ ทั้งนี้หากประชาชนมีร้องเท้าเก่าๆ ไม่ใช้แล้วในวันที่ 19 ก.พ.สามารถที่จะนํามาบริจาคได้ที่บริเวณราชประสงค์

------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : นสพ.ประชาไทออนไลน์

กต. เล็งฟ้องหลังมติUNSC ให้หยุดยิง -มทภ.2 ฉุนพธม.หารับเงินเขมร


by TPNews, 2011-02-17 00:08:46

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา 2 ครั้ง ที่ภูมะเขือ บริเวณช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังการเดินทางไปชี้แจงสถานการณ์ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันจันทร์ (14 ก.พ.) ที่ผ่านมาว่า ผลจากการไปให้ข้อมูลใน 2 ประเด็น คือ ให้มีการหยุดยิงระหว่างสองฝ่ายในพื้นที่ชายแดน และ สนับสนุนกลไกทวิภาคีนั้น รัฐบาลไทยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ถ้ากัมพูชาไม่ยิงมาก่อน เราก็จะไม่เปิดฉากยิงตอบโต้ เพราะเป้าหมายทางการทหารของเราเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนตามแนวชายแดน แต่ยอมรับว่า เหตุปะทะที่เกิดขึ้นอาจมีผลต่อการเจรจาระดับทวิภาคีได้ ถ้ากัมพูชายังไม่หยุดโจมตีไทย

นายชวนนท์ กล่าวว่า ต้องมีการบันทึกเหตุปะทะดังกล่าวไว้ เพื่อให้ชาติสมาชิกที่สนับสนุนทวิภาคีได้รับทราบว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับพล.อ.เตีย บัณห์ รมว.กลาโหม จะทำหน้าที่เจรจาเพื่อให้หยุดยิง ซึ่งหลังจากที่นายกษิต เดินทางกลับมาถึงก็จะเข้าหารือกับพล.อ.ประวิตร เพื่อให้การดำเนินการของกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงการต่างประเทศสอดคล้องกัน ก่อนไปเจรจากับรมว.กลาโหมของกัมพูชา

สำหรับการประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เลขานุการรมว.จะต่างประเทศ ชี้แจงว่าไทยจะมีการพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยยืนยันว่าไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้น และได้ใช้ความอดทนอดกลั้นโต้ตอบทางฝ่ายทหารเท่านั้น ส่วนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ต้องยืนยันว่าเป็นชนวนแรกที่ทำให้เกิดความบาดหมาง จึงควรดูที่ต้นเหตุว่าจะสะสางปัญหานั้นได้อย่างไร และจะยืนยันว่าไทยยินดีที่จะเจรจาภายใต้กรอบทวิภาคีกับกัมพูชาเสมอ ยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนประชาคมอาเซียน แต่ทั้งนี้ ผลการพูดคุยในครั้งนี้จะไม่เป็นการผูกมัดไทยกับกัมพูชา เพราะไม่ใช่ลักษณะที่อาเซียนจะเข้ามาแทรกแซง

พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า พร้อมให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหลังแกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนประชาธิปไตย (พธม.)โจมตีว่ามีนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 ได้รับผลประโยชน์จากฝ่ายกัมพูชาจึงไม่กล้าแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการกล่าวหาเกินเหตุและรับไม่ได้แต่จะไม่ดำเนินการฟ้องร้องหรือฟ้องหมิ่นประมาทกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะไม่ต้องการมีคดีความขึ้นศาล

ส่วนความไม่สงบตามแนวชายแดนขณะนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ได้มีทหารไปเข้าเวรยามรักษาการณ์และนอนอยู่เป็นเพื่อนชาวบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ติดกับชายแดนกว่า 10 หมู่บ้านแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมเช่น ซักซ้อมการลงหลุมหลบภัยที่บ้านและหลุมหลบภัยส่วนรวมต่างๆ แต่ต้องยอมรับว่า ประชาชนแถบนั้นไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มานานกว่า 30 ปีแล้วจึงทำให้ชาวบ้านตกใจมาก บางคนแค่เปิด-ปิดประตูรถเสียงดังก็ทำให้ตกใจแล้ว แต่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น มีเหตุการณ์เล็กน้อย ไม่มีเสียงอาวุธหนัก.

------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : TNews

มาร์คแจงภาพรวมการประชุมงบฯกลางปี54ย้ำโปร่งใสมุ่งแก้ปัญหาชาติ


by TPNews, 2011-02-17 00:13:53

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงภาพรวมงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ที่รัฐสภาในวันนี้ จำนวน 1 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ

1.เพื่อจัดสรรตามแผนพื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติจำนวน 9,900 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสถานที่หรืออาคารที่เกิดจากความเสียหายจากภัยพิบัติ ดังนี้ แหล่งน้ำ จำนวน 902 แห่ง, โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพานที่เสียหาย จำนวน 4,883 แห่ง, ด้านการศึกษา โดยซ่อมแซมอาคารในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 2,650 แห่ง และบูรณะวัดอีก 627 แห่ง

2.เพื่อจัดสรรตามแผนงานสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จำนวน 4,940 ล้านบาท เพื่อนำไปเพิ่มในส่วนของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยยังชีพผู้พิการ และ

3.เพื่อจัดสรรตามแผนงานส่งเสริมการกระจายอำนาจการปกครองจำนวน 1,017 ล้านบาท นอกจากนี้แบ่งเป็นงบประมาณเพื่อชดใช้เงินคงคลังอีกจำนวน 84,142 ล้านบาท

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงภาพรวมเสร็จแล้ว จึงเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านเป็นผู้อภิปรายต่อไป โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อภิปรายเป็นคนแรก โดยวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่โปร่งใส ที่มุ่งเน้นให้ประโยชน์กับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลมากกว่าประชาขน

----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : TNews

SMS-TPNews 16-2-54

1. "เหตุประหลาดในคดีดาฯ" โดย กาหลิบ (Waplink)

2. "สภาพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มปี54วงเงิน1แสนล้าน-พท.อัดรัฐหมกเม็ด"

3. "สุเทพ"ยันไม่ถอนกำลังทหารออกจากชายแดนไทย-เขมร ลั่น2ฝ่ายควรเจรจาหยุดยิง

4. "เทพเทือก"โบ้ยถาม"ปณิธาน"ปล่อยข่าว พธม.ก่อม็อบสร้างเงื่อนไขปฏิวัติ

5. "นปช.แถลง19กพ.ปรับแผนนัดราชประสงค์เคลื่อนไปศาลฏีกา ปักหลักอนุสาวรีย์ปชต."

6. "ผลสลากงวด16ก.พ.รางวัลที่1-481746 เลขท้าย3ตัว384,388,510,535 - 2ตัว27"

7. "ยูเอ็นถอนจนท.ออกจากเกาะกงใกล้ชายแดนไทย หลัง2ชาติสั่งเสริมกำลังทหาร"

8. "เฉลิม" ยันไม่ร่วมศึกซักฟอกรัฐบาล ลั่นไม่อยากเป็นนายกรัฐมนตรี

--------------------------------------------------------------------------------------------

SMS-TPNews 15-2-54

1. "กกต."เชื่อรัฐบาลยุบสภา”พ.ค.-มิ.ย.” (Waplink)

2. ศาลตัดสินจำคุก3ปี15วัน ช่างซ่อมรองเท้าขู่บึ้ม "ศิริราช" ระบุผิด ม.112

3. "มติUNSCโยนไทย-เขมรถกทวิภาคี-หนุนอาเซียนนำแก้พิพาท ตกลงหยุดยิงถาวร"

4. "เชิญเล่นกอล์ฟหาทุนปล่อยนักโทษเสื้อแดง26กพ. สนามDYNASTY โทร.082-6301700"

5. "เข้ม ลึก สนุก เชิญอ่านบทความ"กาหลิบ" ชุดละ250.- สนใจโทร.0844566794-5"

6. "อำนวย"เผยคดี91ศพ ราชประสงค์ คืบหน้าเยอะแล้ว คาดจะสรุปสำนวนได้ใน2เดือน

7. "มาร์คปัดคนในรัฐบาลเอี่ยวทุจริต"น้ำมันปาล์ม" อ้างขาดตลาดเพราะคนแห่ซื้อ"

8. "16กพ.17น"ตาสว่างต้าน รปห."สมบัติ,สุรชัยฯลฯ แยกพ่อขุนเม็งราย086-4207950"

9. "21น.คืนนี้ ฟังสส.อนุดิษฐ์ฯในประเด็น"ทุจริตอภิสิทธิ์ชน"ทาง redsiam.tv"

-----------------------------------------------------------------------------------------------

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สื่อแคนาดารายงานพระมหากษัตริย์ไทย ทรงเป็นผู้นำรวยที่สุดในโลก


by TPNews, 2011-02-15 00:42:17

เว็บไซต์แวนคูเวอร์ซัน สื่อสายอนุรักษ์นิยมของแคนาดารายงานพระมหากษัตริย์ไทยครองอันดับหนึ่งผู้นำที่รวยที่สุดในโลก ระบุทรงถือครองที่ดินจำนวนมหาศาล รวมถึงที่ดินในกรุงเทพฯ กว่า 3,500 เอเคอร์

แวนคูเวอร์ซันรายงานโดยจัดอันดับผู้นำที่รวยที่สุดในโลกพร้อมประมาณการทรัพย์สินดังนี้

อันดับหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ประเทศไทย 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

พระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในโลก พระชนมายุ 82 พรรษา ทรงเป็นผู้นำที่รวยที่สุดด้วยเช่นกัน ทรัพย์สินของพระองค์นั้นประกอบด้วยการถือครองที่ดินอย่างมหาศาลรวมไปถึงที่ดินประมาณ 3,500 เอเคอร์ในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยโต้แย้งการจัดอันดับให้พระองค์เป็นผู้นำที่รวยที่สุดในโลก โดยให้เหตุผลว่าทรัพย์สินหลายรายการนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์

อันดับที่ 2 สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันของบรูไนเป็นปัจจัยที่ทำให้สุลต่านของบรูไนเป็นผู้นำที่รวยติดอันดับโลก และก็ใช้เงินไปกับรถยนต์หรู การจ้างไมเคิล แจ็กสันให้เปิดการแสดงเป็นการส่วนพระองค์เพื่อฉลองวันพระราชสมภพ 50 พรรษา ในปี รายงานของศาลแสดงให้เห็นว่าทรงจ่ายเงินค่าจ้างโค้ชแบดมินตันราว 2 ล้านเหรียญสหรัฐ อีก 2 ล้านปอนด์สำหรับค่าฝังเข็มและนวด และค่าจ้างคนทำงานบ้านอีกประมาณคนละ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ

อันดับที่ 3. ชีกห์คาลิฟา บิน ซาเอด อัล นาห์ยัน ประมาณ 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งเป็นประเทศที่ถือครองน้ำมันมากติดอันดับหนึ่งสในสิบของโลก ชีค กาลิฟาห์ทรงจ่ายเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการสร้างศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงการว่าจ้างแฟรงก์ เกอร์รี่ ผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์

อันดับที่ 4 พระราชาอับดุลลาห์ บิน อาบูล อาซิซ ของซาอุดิ อาระเบีย ประมาณ 21,000 ล้านเหรียญ

อันดับที่ 5 ชีกห์มูฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มักทูม แห่งดูไบ ประมาณ 12,000 ล้านเหรียญ

อันดับที่ 6 ฮอสนี มูบารัก ประมาณ 10,000 ล้านเหรียญ

อันดับที่ 7 ซิลวิโอ เบลุสโคนี่ ประมาณ 9,000 ล้านเหรียญ

อันดับที่ 8 ฮาน อดัมส์ ที่สอง แห่งลิกเตนสไตน์ ประมาณ 3,500 ล้านเหรียญ

อันดับที่ 9 เอมิร์ แห่งการ์ตาร์ ประมาณ 2,000 ล้านเหรียญ

อันดับที่ 10 อาซิฟ อาลี ซาดารี ประธานาธิบดีแห่งปากีสถาน ประมาณ 1,900 ล้านเหรียญ

--------------------------------------------------------------------------------------------