Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

SMS-TPNews 6-11-53

1. "รัฐขวาจัด" (ตอนที่ ๑) โดย กาหลิบ (Waplink)

2. "ทีมจักรยานเสื้อแดงยันทำตามแผนต่อ แม้ถูกตร.หน่วยปราบปรามค้ามนุษย์ลอบยิง"

3. "วันนี้ชมคอนเสิร์ต"ใจประสานใจ" เวลา12-24น. ณ ฮอลล์ ชั้น 6 อิมฯลาดพร้าว"

4. "6พ.ย.เสวนา "ครบรอบ 243 ปีกอบกู้เอกราชพระเจ้าตาก" ช.5 บิ๊กซี ลาดพร้าว 13-17น."

5. "พล.อ.ชวลิตฯ พร้อมคณะ เตรียมปราศัยใหญ่ สนามทุ่งศรีเมือง อุดรฯ บ่าย 2 วันนี้"

6. "Red Cyber จัดกอล์ฟการกุศล 13พ.ย.สนามเมืองเอกรังสิต สนใจติดต่อ 082-6301700"

7. "นพดล เผย ทักษิณ อยู่นอร์เวย์ ถกปรองดองเสธ.หนั่น-ปัดใช้ทนายทำลายไทย"

8. "ศอฉ.ปูดอีก กลุ่มไม่หวังดีก่อเหตุลอยกระทง-ปีใหม่ สั่งคุมเข้มจุดเสี่ยง"

9. "กิจกรรมดี แดงราชบุรี,เพชรบุรี เชิญบริจาคเครื่องกันหนาว แจกชาวแพร่ 8-13พ.ย."

10. "ปตท.แย้มขึ้นราคาน้ำมันสัปดาห์หน้า หลังน้ำมันดิบตลาดโลกจ่อ 87 เหรียญ"

11. "เฉลิมจี้รัฐยุบสภา คืนอำนาจให้ปชช. จัดลต.ใหม่ ชูนโยบายนำทักษิณกลับปท."

12. "ผบ.ตร.สั่งจับตากลุ่มป่วนตั้งด่านร่วมทหารสกัด เข้มแดงชุมนุมครบรอบ6เดือน"

-----------------------------------------------------------------------------------------

รัฐขวาจัด (ตอนที่ ๑) โดย กาหลิบ


by TPNews, 2010-11-06 00:54:04

คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง: รัฐขวาจัด (ตอนที่ ๑)
โดย : กาหลิบ

เวลาเราอ่านประวัติศาสตร์ย้อนหลัง เรามักพบว่าเราเข้าใจในอดีตได้ดีกว่าที่คนในยุคนั้นเข้าใจตัวเอง เหตุผลที่สำคัญก็เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ในขณะนั้นมักเกิดขึ้นทีละเรื่อง ไม่ได้เกิดพร้อมๆ กันห้าอย่างสิบอย่างให้เรานำมาร้อยเรียงพิจารณาได้อย่างต่อเนื่องในคราวเดียว

การนำเหตุการณ์ที่ดูเสมือนว่าไม่เกี่ยวข้องกันในขณะที่เกิด มาวิเคราะห์ร่วมกันทั้งในจุดร่วมและจุดต่าง จึงเป็นกลวิธีทางประวัติศาสตร์ที่นำมาใช้ทำความเข้าใจกับความยุ่งเหยิงต่างๆ รอบตัวเราได้เสมอ

เมืองไทยในขณะนี้คือตัวอย่างที่ดี เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นดูราวกับว่าต่างมีเหตุปัจจัยไปคนละแบบ แต่ถ้าหาจุดเชื่อมโยงได้ เราอาจจะพบยุทธศาสตร์ของคนบางคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและชักใยอยู่อย่างเมามัน

เราได้เห็นกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาออกโรงเรื่องบันทึกช่วยจำฉบับที่ ๔๓ และตั้งอกตั้งใจที่จะปั้นสถานการณ์การทูตธรรมดาให้กลายเป็นปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาขึ้นมา จนถึงขั้นที่กล่าวหาว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรม “ขายชาติ”

ทำงานสอดรับกันเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนปราศรัยที่หน้ารัฐสภากับภายในรัฐสภาที่มีคนอย่างนายคำนูญ สิทธิสมานอภิปรายอยู่

ASTV ก็ขยายผลเต็มที่ไปตามระเบียบ

ดูให้ดีแล้วจะพบว่างานนี้ไม่ใช่เรื่องของดินแดนหรือเส้นแบ่งระหว่างไทยกับกัมพูชาแต่อย่างใดเลย แต่เป็นการเคลื่อนไหวหวังจุดประเด็นให้ความคลั่งชาติเป็นประเด็นการเมืองของไทยในขณะนี้

เราได้ยินผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่และบริษัทบริวารอย่างแม่ทัพภาคที่ ๓ นัดกันออกมาพูดเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์และประกาศว่าจะต่อสู้ทำลายล้าง “ขบวนการล้มเจ้า” อย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ

พูดแล้วจู่ๆ ก็หายตัวไปจนผู้สื่อข่าวตามตัวไม่พบ

ทั้งหมดนี้เป็นเสมือนการออกมาจุดประเด็นบางอย่างไว้ให้คนเขาเอาไปขบคิดและพูดต่อ โดยหวังผลทางการเมืองให้ทั้งประเทศคิดว่าเมืองไทยกำลังจะล่มสลาย บางทีอาจคิดเลยเถิดต่อไปด้วยว่าการรัฐประหารเพื่อล้มกระดานและจัดระเบียบการเมืองตามใจตัวเองอีกครั้งอาจเกิดขึ้นได้อีก

นั่นสินะ เดี๋ยวนี้ออกรายการวิทยุโทรทัศน์ครั้งใดผู้บัญชาการทหารบกคนนี้จะปรากฏตัวพร้อมด้วยเพลงมาร์ชบรรเลงตึงตังอยู่ในฉากหลังแทบทุกครั้ง เหมือนกำลังยึดอำนาจไม่มีผิด

ซ้อมแล้วซ้อมอีกอย่างนี้ ถ้าไม่ล้มหายตายจากไปเสียก่อนก็คงจะได้ทำสมใจสักครั้ง ประเทศจะวินาศฉิบหายอย่างไรก็ช่างประเทศ

เราได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งตัวกันทั้งนั้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และเราก็ได้เคยคุยผ่านคอลัมน์นี้แล้วว่าเหตุที่บาทต้องแข็งในขณะนี้เพราะอะไร

อย่ามาโทษดอลลาร์เลยครับ ก็บาทแข็งโด่เด่อยู่สกุลเดียวในแถบนี้จะไปกล่าวหาได้อย่างไรว่าบาทเราแข็งเพราะปัจจัยภายนอก เราควรส่องกล้องดูตัวเองว่า “ขาใหญ่” คนใดหรือครอบครัวไหนในประเทศไทยที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่าขนาดนี้ และดูต่อว่าหน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรงหน่วยใดที่อยู่ภายใต้อำนาจเขามากพอที่จะกระทำตามแนวทางผลประโยชน์นั้น แต่ก็อ้างผลประโยชน์แห่งชาติตามตำราเหมือนผีเจาะปากมาพูด

บาทที่แข็งค่าช่วยให้ทรัพย์สมบัติภายในประเทศมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น สอดคล้องต่อผลประโยชน์โดยตรงของเศรษฐีเก่า/ทุนเก่า (old money)

และช่วยทำลายฐานผลประโยชน์ของเศรษฐีใหม่และผู้ประกอบการใหม่ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของเศรษฐีเก่า/ทุนเก่าเหล่านั้นด้วย

ลัทธิคลั่งชาติ การสร้างภาพขบวนการล้มเจ้า และเงินบาทที่แข็งค่า บวกกันแล้วได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเมืองไทยที่กำลังจะปิดประเทศ

ไม่อยากคบค้าสมาคมกับใครในโลก เพราะระดับการพัฒนาทางการเมืองของเรายังไม่ถึงเขาคนไทยล้วนเป็นผู้เจริญ แต่เจ้าของประเทศไทยยังอยู่ห่างไกลจากแนวคิดประชาธิปไตยอันเป็นครรลองหลักของโลกมากนัก.

(ยังมีต่อ)

---------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : http://www.democracy100percent.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รัฐขวาจัด (ตอนที่ ๒-จบ) โดย กาหลิบ


by TPNews, 2010-11-06 19:04:46

คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : รัฐขวาจัด (ตอนที่ ๒-จบ)
โดย : กาหลิบ

ผู้นำโลกหลายคน เช่น มหาตมะคานธี จอร์ช วอชิงตัน เนลสัน แมนเดล่า เป็นต้น ต่างได้ข้อสรุปถึงอุดมการณ์ในการบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้าว่า จงอย่าหลวมตัวยอมรับความสุดโต่งทางการเมือง

พูดอีกอย่างได้ว่า ประเทศที่จะเจริญรุดหน้าได้อย่างแท้จริงนั้น ถืออุดมการณ์ซ้ายจัดก็ไม่ได้และขวาจัดก็ไม่ได้

เป็นคอมมิวนิสต์จนตกขอบ หรืออนุรักษ์นิยมจนตกเหว ล้วนมีอันตรายทั้งนั้น

แต่มัชฌิมาทางการเมืองโดยเฉพาะของราชอาณาจักรไทยจะอยู่ตรงไหนนั้น เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันในอีกเวทีหนึ่ง แต่วันนี้เรากำลังเดินไปสู่สุดโต่งทางด้านขวาตามผลประโยชน์เฉพาะหน้าของเจ้าของประเทศและคณะ โดยไม่คำนึงเลยว่ามวลมหาประชาชนที่ควรจะวางตัวเป็นกลาง จะได้รับผลเสียหายอย่างไรบ้าง

เพราะเมืองไทยปัจจุบันมิได้อยู่ในระบอบประชาชน แต่มวลชนไทยทั้งหมดกลับตกอยู่ในระบอบศักดินา-อำมาตยาธิปไตยที่ครอบงำอยู่ในทุกมิติ ประชาชนจึงไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในทิศทางการเมือง โดยเฉพาะเมื่อราชรถประเทศไทยกำลังเอียงขวาไปเรื่อยๆ จนทำท่าจะตกขอบเอา

ความพยายามในการปิดประเทศไทยด้วยการปลุกลัทธิคลั่งชาติ การชวนเชื่อว่ามีขบวนการล้มเจ้า และการทำให้เงินบาทแข็งค่าอย่างไร้เหตุผล คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

ปล่อยน้ำในเขื่อนมาท่วมบ้านเรือนราษฎรทั่วประเทศให้รัฐบาลประชาธิปัตย์เน่าเสียและเตรียมพบจุดจบในทางการเมือง จะโดยการยึดอำนาจ เลือกตั้ง หรือพังกลางรัฐสภาก็ตาม เป็นความทารุณอย่างหนึ่งของคณะผู้ปิดประเทศไทย ซึ่งต่อไปจะเรียกเสียให้สมกับอุดมการณ์เขาว่าคณะขวาจัด แต่ก็เป็นกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ที่หาคนพุทโธได้ยากอยู่เหมือนกัน

การลุกฮือของมวลมหาประชาชนคนเสื้อแดง ที่ส่วนหนึ่งยึดอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้คณะขวาจัดต้องออกโรงเหมือนเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์สังหารประชาชนเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙

เขาเห็นแล้วว่า ขบวนการนี้ได้เกิดขึ้นแล้วและจะเจริญเติบโตต่อไปอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้ การจัดการทางการเมืองโดยอดีตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย และ นปช. แดงทั้งแผ่นดินนั้นส่วนหนึ่ง แต่พลังธรรมชาติที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการจัดการของส่วนแรกนั่นสิที่เขากำลังจับตามองด้วยความสะพรึงกลัว เพราะรู้แก่ใจว่าควบคุมไม่ได้แม้ในฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเอง

คณะขวาจัดสังเกตการณ์โดยรอบ ใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมาแล้วสรุปว่า หากเขาไม่อาจควบคุมประเทศไทยให้อยู่ในมืออย่างมั่นคงได้ดังเดิม ก็ควรหาทางปิดประเทศไทยเสียในทางการเมืองและเศรษฐกิจมหภาค เหมือแนวคิดของนักเลงปากซอยที่ว่า ข้าไม่ได้เอ็งก็อย่าได้

คิดคำนวณอยู่ในใจว่าปิดประเทศเสียตัวเองก็คือผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด รัฐบาลใดที่รับใช้ได้ถึงใจ ก็เอามันไว้ใช้ รัฐบาลใดที่ขัดใจหรือผลประโยชน์ขัดกัน ก็ส่งสัญญาณให้เครือข่ายทำลายทิ้งเสียอย่างเลือดเย็นเช่นที่เคยเกิดกับรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียรเมื่อ พศ.๒๕๒๐ รัฐบาลสุจินดา คราประยูรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐

และกำลังจะเกิดกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเร็ววันนี้

นายกรัฐมนตรีหลังรัฐประหารก็เลือกสรรอย่างใจเย็นเหมือนคนช็อปปิ้งด้วยความสบายใจ ดูไปช้าๆ ว่าใครจะตอบโจทย์ได้ครบถ้วนกว่ากัน

ไม่ว่าจะพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ ก็อยู่ในบททดสอบนี้ทั้งนั้น รวมทั้งอีกสองสามคนที่แอบให้ความหวังเขาอยู่ เหมือนเคาะกะลาให้หมาดีใจ

จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวบ้านเขาเห็นพายุสีแดงจัดเข้าถล่มเมืองหาดใหญ่และตัวจังหวัดสงขลาจนแทบจะวางวายอยู่ในขณะนี้ เช่นเดียวกับอีกหลายพื้นที่ของประเทศ ชนิดที่เกิดมาชั่วท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเห็น

นี่ล่ะครับ บ้านเมืองที่กำลังเกิดอาเพศ.

---------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.com

“พ.ต.ท.ทักษิณ" โฟนอินเสื้อแดงอุดรฯ ลั่นพร้อมกลับปลดหนี้


by TPNews, 2010-11-07 00:33:52

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีการจัดคอนเสิร์ต “วันฟ้าใสหัวใจตรงกัน” ของกลุ่มคนเสื้อแดง มีแกนนำกลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน

เวลา 20.00 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินมายังเวทีประมาณ 20 นาที ว่า พร้อมที่จะกลับไปปลดหนี้เพื่อสร้างความมั่งคั่ง กลับไปใช้หนี้บุญคุณที่สนับสนุนมาขนาดนี้ เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งแต่ได้รับความเมตตา โดยเฉพาะจากคนอีสานถือว่าเป็นบุญในชีวิต

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นที่ซึ่งแก้ปัญหาได้ห่วยมาก เกิดจาก 2 เรื่องกระทรวงมหาดไทยมีการหากินจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ผู้ว่าฯ ต้องจ่าย 20 ล้าน ตังค์ไม่มีก็ไปยืมนายกฯ อบจ.มาก่อน เมื่อเกิดปัญหาจะเอาน้ำหน้าอะไรไปสั่งใครได้และการแต่งตั้งเด็กข้ามหัวผู้ใหญ่แล้วจะยอมเคารพกันได้อย่างไร นี่คือปัญหาที่ข้าราชการไม่ทุ่มเทเต็มที่

"วันนี้ผมสามารถสร้างนโยบายพลิกฟื้นประเทศไทยและทำให้ประชาชนหายจนได้ในเวลาสั้นและให้ลูกหลานมีอนาคตที่ดีตนไปเห็นมาแล้วทำไม่ยาก โดยขอนิดเดียวเลือกตั้งครั้งหน้าขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยให้ถ่มทลาย"

ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ยังยืนยันว่าสุขภาพแข็งแรงดีอีกไม่นานจะเดินไปเยี่ยมพี่น้องชาวอุดรฯ

--------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์

แกนนำพท.บุกเรือนจำอุดรเยี่ยมคนเสื้อแดงชาวอุดรณเฮฟังปราศรัยกว่าหมื่น


by TPNews, 2010-11-07 07:51:29

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า เมื่อเวลา 14.14 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาในคดีก่อการร้ายที่ถูกคุมขังในเรือนจำ จ.อุดรธานีจำนวน 25 คน

พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวกับผู้ต้องหาตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันอายุ 78 ปีแล้วก็ยังหาความยุติธรรมไม่ได้ ดังนั้นเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้ให้ได้ โดยพล.อ.ชวลิต ได้ใช้เวลาพบผู้ต้องหาเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง โดยระหว่างการพูดคุยนั้นพล.อ.ชวลิต ได้ร้องไห้ตอนหนึ่งด้วย

ขณะที่พล.อ.ชวลิตปราศรัยช่วงหนึ่งที่ทุ่งศรีเมืองว่า วันนี้ได้เดินทางไปเรือนจำกลาง จ.อุดรธานี ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องที่ถูกจับ ได้ฟังที่เขาเล่าแล้วก็ รู้สึกถึงหัวจิตหัวใจ ฟังแล้วน้ำตาจะไหล พร้อมทั้งสัญญากับเขาว่าจะทำให้รัฐบาลเข้าใจว่าคนที่รักชาติประชาธิปไตย แต่ไหนแต่ไรมาก็โดนข้อหาอย่างนี้มาตลอด มึงยังไม่จำอีกเหรอ พรรคเรามีอดีตผบ.ทบ. พวกที่บอกว่าจะปกป้องสถาบันนั้น พวกเอ็งไม่ต้องไปคุ้มกันหรอก เพราะสถาบันนั้นคุ้มกะลาหัวพวกเอ็งอยู่ พวกเรานั้นรักษาอย่างแท้จริง ไม่แตะต้อง ไม่ดึงมา ให้มีราคี

---------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์
ภาพประกอบ : ASTVผู้จัดการ

บิ๊กจิ๋ว ตอก มาร์ค แก้น้ำท่วมสู้ สรยุทธ ไม่ได้


by TPNews, 2010-11-07 08:34:35

6 พ.ย.53 รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า แม้การแก้ปัญหาของนายกฯ จะได้รับคำชื่นชมจากคนกลุ่มหนึ่ง แต่นายกฯ ยังสู้นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดังไม่ได้อยู่ดี

ส่วนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนั้นตนมองว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในแผ่นดินได้ และหากทิ้งไว้ต่อไปบ้านเมืองจะไม่มีอะไรเหลือ

เนื่องจากรัฐบาลทำงานล่าช้า ไม่มีความเอาใจใส่ประชาชน ทางออกเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ก็คือพรรคเพื่อไทยจะต้องมาเป็นรัฐบาลและเชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งจะจบลงไปในช่วงข้ามคืน

“ผมอายุ 79 ปี เลิกเล่นการเมืองไปแล้วก็ต้องกลับมาอีก ต้องกลับเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และปัญหาความขัดแย้งในชาติ เราหวังพึ่งนายอภิสิทธิ์ไม่ได้แล้ว

เพราะขนาดกับนายสรยุทธก็ยังเทียบไม่ได้ แต่หากเทียบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีความห่วงใยประชาชน คอยเสนอทางแก้ไขทั้งปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาน้ำท่วมมาตลอด แต่พอเสนอออกไปรัฐบาลก็ไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจก็ไม่ทราบ“ พลเอกชวลิต กล่าว

----------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : MThai News

วันนี้พม่าเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกในรอบ20ปี


by TPNews, 2010-11-07 08:43:17

วันนี้มีการเลือกตั้งทั่วไปพม่าครั้งแรกในรอบ 20 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการร้องเรียนว่ารัฐบาลทุจริตเลือกตั้งทั้งการข่มขู่ผู้มีสิทธิลงคะแนนและซื้อเสียง และไม่อนุญาตให้สื่อจากภายนอกประเทศเข้าไปทำข่าวเด็ดขาด โดยกลุ่มที่ร้องเรียนการเลือกตั้งมีทั้งพรรคประชาธิปไตยพม่า หรือ ดีพี และพรรคพลังประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือเอ็นดีเอฟ ซึ่งแตกออกมาจากอดีตพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี)ถูกยุบพรรค ขณะที่นางออง ซาน ซู จี ผู้ก่อตั้งพรรคเอ็นแอลดี ยังคงถูกกักบริเวณอยู่ภายในบ้านพักและไม่ได้รับอนุญาตให้ลงเลือกตั้ง กับยังมีการร้องเรียนจากองค์การด้านสิทธิมนุษยชนรัฐคะฉิ่น ส่วนพรรคประชาธิปไตยมอญและพรรคชาติพัฒนายะไข่ ระบุว่าชนกลุ่มน้อยในพม่าและพรรคฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมดจะคว่ำบาตรผลการเลือกตั้ง หากพรรคสหภาพเพื่อสมานฉันท์และการพัฒนา หรือ ยูเอสดีพี ซึ่งเป็นพรรคตัวแทนของรัฐบาลชนะการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ มีการกันที่นั่งร้อยละ 25 ในสภาผู้แทนราษฎรไว้ให้ตัวแทนจากกองทัพพม่า ขณะที่ค่าธรรมเนียมการส่งผู้สมัครที่มีอัตราสูงทำให้การเลือกตั้งกลายเป็นการชิงชัยระหว่างพรรคยูเอสดีพีกับพรรคเอกภาพแห่งชาติของพลเอกเนวิน ผู้ล่วงลับ ซึ่งถูกโค่นล้มโดยพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย

ด้านบรรดาเอกอัครราชทูตของประเทศแถบยุโรปปฏิเสธคำเชิญร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งในพม่า นายแอนดรูว์ เฮย์น เอกอัครราชทูตอังกฤษ ระบุว่า เป็นแค่ทัวร์ลวงโลก ขณะที่ในประเทศไทยจะมีการประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตพม่า เวลา 13.00 น. วันนี้.

--------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : TNews