Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แถลงข่าว   มหกรรมประชาชนลุกขึ้นสู้  14 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม


แถลงข่าว   มหกรรมประชาชนลุกขึ้นสู้  14 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม ชุมนุมใหญ่17 ตุลาคม 2553   สนามกีฬา อยุธยา


     การลุกขึ้นสู้ของประชาชน เรียกร้องประชาธิปไตย ขับไล่เผด็จการ 3 ทรราชย์ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยเบ่งบานสะพรั่งในสังคมไทย นิสิต นักศึกษา ประชาชนได้ตื่นตัวทางการเมืองและมีการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเอกราช ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมอย่างกว้างขวางจนพลิกโฉมหน้าสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น แต่แล้วอำนาจเผด็จการทหารได้ก่อการรัฐประหารนองเลือด 6 ตุลาคม 2519 ขึ้น ด้วยการใช้ความรุนแรงเข่นฆ่านิสิต นักศึกษา ประชาชน อย่างป่าเถื่อนโหดเหี้ยมอำมหิต ได้สร้างความขัดแย้งแตกแยกในสังคมไทย จนนิสิต นักศึกษา ประชาชน ได้ประกาศ  “ สงครามประชาชน “ ใช้กำลังอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหารระหว่างปี 2519-2525 นำความสูญเสียและความบออบช้ำให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน

      การเรียกร้องของคนเสื้อแดงให้มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ในเดือนมีนาคม 2553 กลับถูกรัฐบาลใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตในเหตุการณ์ 10 เมษาและ19 พฤษภาคม 2553  การประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่องเพื่อปราบปรามคนเสื้อแดง คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน การลอบสังหารแกนนำคนเสื้อแดงและการดำเนินคดี ด้วยการยัดเยียดข้อหา การก่อการร้าย การปิดกั้นข้อมูลข่าวสารด้วยการ ปิดเวปไซด์   การปิดนิตยสาร  การปิดโรงพิมพ์และนิตยสาร Red  Power  กำลังทำให้สังคมไทยเข้าสู่ยุคมืด ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศ ที่น่าสะพรึงกลัว เคียดแค้น ชิงชัง  ประชาชนมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดผวา  มีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงด้วยการวางระเบิดตามสถานที่ต่างๆเพื่อคงไว้ซึ่งพรก.ฉุกเฉินและการใช้อำนาจเผด็จการทหาร  ทำให้เศรษฐกิจ การเมือง ล้าหลัง ตกต่ำ หากปล่อยให้รัฐบาลยังคงความเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ จะทำให้สังคมไทยเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง กระทั่งนำมาสู่สงครามประชาชนได้เช่นกัน

     เพื่อเป็นการเตือนสติต่อสังคมไทยและเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรง นำมาสู่ สังคมประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดเป็ฯของประชาชน โดยสันติ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย  กลุ่มแดงอยุธยา  กลุ่มแดงเชียงใหม่  สมัชชาประชาธิปไตยนนทบุรี Thailand Mirro จะได้ร่วมกันจัดงานครบรอบ 37 ปี  14 ตุลาคม  เป็นการชุมนุมของประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยครั้งใหญ่ โดยมีคำขวัญต่อเนื่องจากการชุมนุมใหญ่ที่เชียงใหม่ในหัวข้อ   “17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม”  โดยมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อคือ 

     1. ให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองนปช.ทุกคนเพื่อสร้างสังคมปรองดองอย่างแท้จริง

     2. ปฏิรูปศาลยุติธรรมให้เชื่อมโยงกับอำนาจของประชาชนและนำคณะลูกขุนมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม

  3. ปฏิรูปเศรษฐกิจ กระจายรายได้เป็นธรรมด้วยการยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7 เปอร์เซ็นต์เหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ จัดเก็บภาษีอัตราก้าวหน้า ภาษีมรดกภาษีที่ดินเพื่อนำมาสู่การจัดตั้งรัฐสวัสดิการ

   4.ปฏิรูปที่ดินกระจายการถือครองที่ดินให้ชาวนา ชาวไร่ ประกันรายได้เกษตรกรและกรรมกรให้พอเพียงต่อการดำรงชีพสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

    5. หยุดการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร   ยุติการปิดกั้นและคุกคามสื่อมวลชน ทุกรูปแบบ

     ทั้งนี้จะได้จัดให้มีมหกรรม ประชาชนลุกขึ้นสู้ ดังมีกิจกรรมและการเคลื่อนไหวต่อเนื่องดังต่อไปนี้

    1.  10 ตุลาคม 2553 เวลา 10.00 น. สมัชชาประชาธิปไตยนนทบุรีนำประชาชนถือป้ายรูปภาพและข้อความที่ยาวที่สุดในโลกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย   หัวข้อ เส้นทางสู่อิสรภาพจาก 14 ตุลาถึง 19พฤษภาคม 2553

   2.  14 ตุลาคม 2553สัมมนาเรื่อง 14 ตุลา สงครามประชาชน โดยกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เวลา 13.00-17.00 น. วิทยากร : สมาน เลือดวงศ์รัตน์ สุวิทย์ เลิศไกรเมธี  อติเทพ ไชยสิทธิ์ 

   3.  16 ตุลาคม 2553 แรลลี่ เชียงใหม่-อยุธยา –อีสาน -กรุงเทพ ขบวนรถกว่า 100 คัน ออกจากเชียงใหม่เวลา 8.00 น. มุ่งสู่อยุธยา ด้วย ป้ายข้อความติดตามข้อเรียกร้อง5ข้อ ติดรถยนต์ทุกคันพร้อมกันที่อนุสาวรีย์พระนเรศวร อยุธยา ประชาชนทุกจังหวัดออกมาต้อนรับ-ถือป้าย


   4. 17 ตุลาคม2553  แรลลี่กรุงเทพ-อยุธยา ขบวนรถกว่า 100 คัน วิ่งรอบเมืองกรุงเทพเข้าสู่อยุธยาพร้อมกันที่สะพานปรีดี พนมยงค์  เวลา 15.00 น. เดินขบวนถึงสนามกีฬา 17.00 น. เริ่มเวทีปราศรัยทางการเมือง พบกับ สส.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย  สส.ดร.สุนัย จุลพงศธร  สส.สุรเชษฐ์ ชัยโกศล สส.จตุพร พรหมพันธ์ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ฯลฯ โดยมีไฮไลต์ของงาน คือ  สาปแช่งฆาตกร เวลา 17.30 น. และ “ยิงตะไลทะลุฟ้า ท้าอธรรม” จำนวน 3000 นัด เวลา 22.00 น.

 

ทั้งหมดนี้ เป็นการเคลื่อนไหวต่อสู้โดยสงบ  สันติวิธี ตามสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลอย่าได้บิดเบือนหรือให้ร้ายป้ายสีและอย่าได้ใช้วิธีการสกปรกหรือใช้อำนาจรัฐขัดขวางการการเคลื่อนไหวดังกล่าว ทั้งนี้ขอขอบคุณล่วงหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในการอำนวยความสะดวกในด้านการจราจร  การดูแลความปลอดภัย และขอขอบคุณหน่วยงานที่บริการรถสุขา เพื่อให้การจัดกิจกรรมและการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประสพความสำเร็จต่อไป


----------------------------------------------------------------------------------------------------------

        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น