Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์
วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553
เศร้า ไฟไหม้บ้าน "พ่อ-แม่" - "จักรภพ เพ็ญแข"
วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553
แถลงการณ์เสนอโรดแม็ป 5 ข้อของแดงสยาม
มีแต่จะต้องดำเนินการเช่นนี้ จึงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางปฏิวัติ เปลี่ยนผ่านแบบสันติเกิดขึ้นและรอดพ้นจากสงครามกลางเมือง
วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553
แกนนำ พท.ร่วมทำบุญเลี้ยงพระ
พรรคเพื่อไทย ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระก่อนเปิดการรณรงค์ "4 ปี ความสุขที่หายไป 4 ปี มาร่วมสร้างความสุขกันใหม่ เพื่อคนไทยทุกคน" โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาแกนนำพรรค อาทิ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายวราเทพ รัตนากร พร้อมด้วยแกนนำและสมาชิกพรรค เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน
ซึ่งจะมีการปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์โครงการทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หลังจากนั้นจะมีการเปิดนิทรรศการโดยต้องการชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของประเทศไทยในการเสียโอกาสหลังเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
-------------------------------------------------------------------------
ที่มา : โลกวันนี้ออนไลน์
"สมบัติ" ร้องขอตร.ถ่ายคลิป 6 ศพ
(22 ก.ย.) เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด แนวร่วมคนเสื้อแดง พร้อม นายณัทพัช อัคฮาด อายุ 21 ปี น้องชาย น.ส.กมดเกด อัคฮาด หรือน้องเกด เจ้าหน้าที่อาสากาชาดที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม วันที่ 19 พฤษภาคม พร้อมคณะคนเสื้อแดง 8 คน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. โดยแนบแผ่นซีดีคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์วันดังกล่าว เป็นภาพถ่ายมุมสูงเห็นชายสวมชุดลายพรางทหารค้อมตัวหันหน้า คล้ายเล็งปืนไปทางวัดปทุมฯ เห็นเหตุการณ์ไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และเห็นชาย 8 คนกำลังดูสถานการณ์จากมุมตึกสูงแห่งหนึ่ง มอบให้ ผบ.ตร. ซึ่งมี พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองโฆษก ตร. รับไว้แทน ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่าต้องการให้ตำรวจที่ปรากฏภาพในคลิป มาเป็นพยานในเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่ในวัดปทุมวนารามซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 6 คน
นายสมบัติกล่าวว่า อยากให้ตำรวจประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษเอาบุคคลเหล่านี้ที่เป็นพยานปากเอก เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแน่นอน มีถึง 9 คน คือคนในภาพ 8 คนและคนถ่ายภาพอีก 1 คน มาเป็นพยานมาพูดอธิบายความจริงว่าเห็นอะไร ชายชุดดำ หรือทหาร หรือใครกันแน่กำลังทำอะไรยิงใครไปที่ไหน เพื่อให้ความกระจ่างกับคดีนี้ ก่อนที่คนเหล่านี้จะถูกข่มขู่ อุ้มหายไป ยิ่งหากเป็นตำรวจด้วยแล้วก็น่ามีสามัญสำนึกออกมาให้ข้อมูลที่แท้จริง แต่หากการออกมาร้องเรียนครั้งนี้ไม่ได้รับการตอบสนองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เพราะคิดว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชนได้
"ป๊อก"ลั่นจับแล้วทีมขโมยอาร์พีจี โยนจนท.-คนนอก นายกฯ เชื่อฉกส่งขายนอก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมยกเลิกประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในบางพื้นที่อีก หลังจากขณะนี้ยังมีผลบังคับใช้อยู่ใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ อุดรธานี นครราชสีมา และขอนแก่น ซึ่งจะครบกำหนดบังคับใช้ 3 เดือน ในวันที่ 7 ตุลาคม โดยให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 22 กันยายน ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ประเทศสหรัฐฯ ว่า รอให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นำข้อเสนอไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งหมด คงมีการยกเลิกแต่จะมากน้อยแค่ไหนกำลังประเมินสถานการณ์
"ในพื้นที่ กทม.อยู่ในส่วนหนึ่งที่ต้องประเมิน ซึ่งการสรุปของ ศอฉ.ต้องทำก่อนวันที่ 5 ตุลาคม ฉะนั้น คงเสนอมาที่ผมในสัปดาห์หน้า คงดำเนินการได้ เนื่องจากวันที่ 4-6 ตุลาคม อยู่ต่างประเทศ คิดว่ายกเลิกบางส่วนแน่นอน บางพื้นที่ขณะนี้ที่มีรายงานมาน่าจะยกเลิกได้ บางพื้นที่ก็กำลังรอ อาจยังมีประเมินไม่ตรงกัน" นายกฯระบุ
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ได้ย้ำ ศอฉ.ไปว่าวันที่ 5 ตุลาคมนั้น พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะครบตามกฎหมายคือ 3 เดือน จึงอยากให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และฝ่ายข่าว ประเมินสถานการณ์แต่ละจังหวัดที่ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วรายงานให้ทราบเป็นรายจังหวัดและรายภูมิภาค โดยสรุปวันสุดท้าย 4 ตุลาคม จะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องในการรายงาน ครม.
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามจรวดอาร์พีจีและเครื่องกระสุนปืนที่หายไปจากกองสรรพาวุธกลางที่ 2 กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ลพบุรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) จ.นครนายก ว่า จากหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์สามารถจับตัวได้แล้ว ผู้ต้องสงสัยมีทั้งเจ้าหน้าที่ข้างในและคนข้างนอก ขั้นที่สองจะมีการสืบสวนว่ามีใครที่เกี่ยวข้องบ้าง อยากให้สืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วนรายละเอียดต้องรอคณะกรรมการก่อน ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปสอบด้วยจึงไม่รู้และตอบไม่ได้ว่าอาวุธที่หายไปนั้นขณะนี้อยู่ที่ไหน และมีการลักลอบไปอย่างไร
"เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุม ศอฉ.พูดถึงอาวุธที่หายไปว่าอาวุธดังกล่าวไปที่ไหน ยังไม่มีใครรู้ แต่การทำงานจะต้องสืบสวนสอบสวนก่อน ส่วนการป้องกันก็ดำเนินการไป ซึ่งสถานีตำรวจ 88 สถานี ต้องมีการเฝ้าระวังและเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่พนักงานจะต้องช่วยกันดูแล รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนด้วย" ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า โทษของผู้ที่กระทำความผิดหนักอยู่แล้ว ถ้าทุจริตจะต้องโดนทั้งวินัยและอาญา แต่ถ้าผิดโดยไม่เกี่ยวข้องการทุจริต แต่เป็นการประมาทเลินเล่อ ก็จะมีบทลงโทษอีก สรุปแล้วต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาทุกเดือน ผมสั่งให้หน่วยทหารเข้มงวดเกี่ยวกับคลังอาวุธ รวมถึงการปกครองดูแลหน่วย แต่เมื่อตรวจสอบก็ไม่มีอาวุธภายในหน่วยทหารหาย แต่กลับเป็นหน่วยคลังแสง ซึ่งไม่ใช่เป็นหน่วยที่ใช้ แต่ถือเป็นลูกจ้างไม่ใช่หน่วยทหาร จะต้องไปดูระบบตรงนี้ว่ามีประสิทธิภาพอย่างไรในการให้ลูกจ้างมาดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ การสืบสวนสอบสวนต่างกัน การที่จะนำอาวุธไปก่อการร้าย อย่างจรวดอาร์พีจี ถือว่าเป็นเหตุสามารถทำได้ แต่กระสุนปืนกล เอ็ม 60 เป็นไปไม่ได้ คิดว่าคงจะเป็นกรณีอื่น" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
เมื่อถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่าอาวุธที่หายไปยังอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่ได้ไปนั่งสอบสวนด้วย ไม่รู้จะตอบอย่างไร และไม่มีประโยชน์หากไปเดา คงต้องรอการสืบสวนสอบสวนเท่านั้น
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบอาวุธในคลังแสงที่ จ.ลพบุรี หายไปว่า กองทัพออกมาให้ข่าวแล้ว ส่วนที่มีระบุว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วยต้องดำเนินการไป ส่วนจะเชื่อมโยงกับการค้าอาวุธข้ามชาติหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมีการขยายผล ทั้งนี้ไม่คิดว่ามีกรณีแบบนี้เพียงครั้งเดียว เพราะปัญหาลักษณะนี้พูดกันมานาน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุขึ้นก็ไม่ได้มีการปิดข่าว เช่น กรณีอาวุธคลังแสงที่ จ.พัทลุง หายในช่วงชุมนุมทางการเมือง ก็ตรวจสอบและดำเนินการต่างๆ ได้ย้ำไปแล้วว่าต้องมีการหาผู้รับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นปัญหานี้จะไม่จบ
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีคนบางส่วนในกองทัพนำอาวุธไปขายอย่างต่อเนื่องใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่กล้าใช้คำว่าต่อเนื่อง แต่ถามว่ามีกรณีแบบนี้หรือไม่ ก็บอกว่ามีและเป็นเรื่องที่กองทัพต้องเข้มงวดมากขึ้น เมื่อถามว่า สรุปแล้วอาวุธที่หายไปนั้นถูกขายออกไปข้างนอก โดยไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองภายในใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่มีการรายงานเข้ามาไปในทำนองนั้นแต่ยังไม่ได้สรุป เมื่อถามว่า ขายให้กับกัมพูชาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ขอลงรายละเอียด
--------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : มติชนออนไลน์
ภท.เริ่มตั้งโต๊ะล่าชื่อปชช.หนุนนิรโทษฯ วันนี้
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวว่า ในวันที่ 23 ก.ย.เวลา 09.00 น. พรรคภูมิใจไทยจะตั้งโต๊ะให้ประชาชนลงชื่อสนับสนุนร่างพรบ.นิรโทษกรรม ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระบุพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้ด่วนปฏิเสธ อยากให้ค่อยๆ ฟังเสียงประชาชน อย่ามองว่าเป็นร่างพรรคการเมือง แต่ประชาชนคือผู้เสนอ ทั้งนี้อาจใช้เวลาในการรณรงค์ไม่น้อยกว่า 2 เดือน
------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : โลกวันนี้ออนไลน์
“สมคิด”แถลงสละเก้าอี้ผู้ช่วยผบ.ตร. ปัดถูกกดดัน
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงไม่ขอรับตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ไทยและซาอุดีอาระเบีย เพื่อสนับสนุนพี่น้องชาวมุสลิมมีโอกาสไปแสวงบุญ และป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีนำไปขยายสู่ประเด็นความขัดแย้งศาสนา
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สมคิด ยืนยันว่าไม่ถูกแรงบีบคั้นจากฝ่ายใด แต่ได้ปรึกษากับผู้บังคับบัญชา และมองปัญหาอย่างรอบด้านแล้ว ส่วนการดำรงตำแหน่งใดต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะเห็นความเหมาะสม และไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ โดยมองถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
---------------------------------------------------------------
ที่มา : โลกวันนี้ออนไลน์
บทความ "นำแกน" โดย กาหลิบ
คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร? เรื่อง "นำแกน" โดย กาหลิบ
๑๙ กันยายน ๒๕๕๓
ขบวนประชาธิปไตยยกระดับสูงขึ้นทันทีที่คลื่นมหาชนคนเสื้อแดงไหลเข้าสู่พื้นที่ราชประสงค์และที่เชียงใหม่โดยไม่มี “แกนนำ” ที่ชัดเจนเหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน คำพูดเท่ๆ ที่ว่าขอให้คนเสื้อแดงนำตัวเองโดยไม่ต้องรอแกน บัดนี้ได้กลายเป็นความจริงขึ้นในใจกลางราชอาณาจักรไทยแล้ว อย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง
แล้วหน้าไหนมันจะยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่เปลี่ยน เมื่อแกนนำลดความสำคัญลงไปเป็น “แกนนอน” และมวลมหาประชาชนสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นผู้ “นำแกน” แล้วในขณะนี้
เหงื่อแตกอยู่ตรงไหนเล่าท่านมหาอำมาตย์?
สถานการณ์ขณะนี้นำเมืองไทยเข้าสู่ภาวะใหม่ ประชาชนเป็นผู้ตื่น ผู้ตระหนัก และเป็นผู้เรียกหาสิ่งที่ “เขา” แอบลักเอาไปเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว เพียงแต่การตื่น ตระหนัก และเรียกหากำลังเกิดขึ้นอย่างเป็นกระบวนการ ตามวิวัฒนาการทางสังคม อันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เทวดาองค์ไหนก็ไม่อาจห้ามได้ การเลื่อนไหลไปตามกระบวนการนี้ บางทีก็รู้สึกกันว่าช้า ไม่ทันใจ เพราะกลัวว่าเผด็จการเจ้าเก่าจะหวนกลับมาครองบัลลังก์ได้อย่างเต็มภาคภูมิอีก
เห็นภาพในวันรำลึกถึงการสูญเสียสิทธิทางการเมืองนั้นแล้ว บอกได้เลยว่าไม่ต้องกลัว สิ่งที่เกิดในขณะนี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่จะไม่ย้อนหลังกลับ ความพยายามให้ย้อนยุคหรือย้อนกลับดำรงอยู่เสมอก็จริง แต่ฝ่าย “เขา” จะต้องทุ่มทุนสร้างอย่างเปลืองเลือดเปลืองเนื้อ และกินทุนตัวเองไม่รู้จักเท่าไหร่จึงจะได้ตามนั้น จนต้องมานั่งชั่งใจว่าทำแล้วคุ้มหรือไม่
ครับ ประชาชนท่านแสดงตัวเองชัดเจนจนฝ่ายเผด็จการโบราณเริ่มฉุกคิดว่า การย้อนเวลากลับไปสู่ยุคแห่งความสุขสมของตนเอง ด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์เหนือทุกคนในทุกตารางนิ้วของประเทศ เป็นเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสีย
แต่ฝ่ายประชาชนโปรดอย่าลืมว่านั่นคือการคิดแบบมีเหตุผล (rational thinking) แปลว่าแม้แต่ผู้ร้ายที่เลวที่สุด ก็ยังคำนวณผลได้เสียก่อนตัดสินใจกระทำการใดๆ
แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามเราเขาไม่ใช่คนปกติ อัตตาสูงเยี่ยมเทียมฟ้า คิดว่าตนเองเป็นมาตรฐานแห่งความดีที่ใครๆ ต้องมาวัดว่าต่ำลงไปจากตนเท่าไหร่ ก็ต้องสงเคราะห์ว่าเป็นคนบ้า และมีความคิดฟุ้งกระจายไร้เหตุผล เอาตัวตนเข้าวัดประเมินทุกอย่าง วัดด้วยอารมณ์ความรู้สึกอันแปรปรวน อย่างนี้ก็เรียกว่าคิดโดยไม่มีเหตุผล (irrational thinking) ผู้ที่เป็นประชาชนก็ต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกทำร้าย
อีกมิติหนึ่งที่น่าชมคือ การวางตัวของผู้ที่เรียกตนเองว่าแกนนอน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข หรือท่านอื่นๆ ล้วนแต่เรียนรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้และไม่พยายามแสดงตนเองว่าเป็นผู้ “ควบคุม” มวลชนเลยแม้แต่น้อย หากแสดงบทบาทในฐานะนักกิจกรรมที่มวลชนท่านเลือกได้ว่าอยากร่วมงานด้วยหรือไม่ ไม่มีถ้อยคำสำนวนชนิดบีบบังคับ หรือแบ่งแยกออกเป็นฝ่ายแท้ฝ่ายเทียมซึ่งเป็นจุดอ่อนของขบวนการในห้วงเวลาที่ผ่านมา เราก็หวังกันว่า “แกนนำ” เดิมจะเรียนรู้ในสิ่งเดียวกันนี้เพื่อสร้างขบวนการที่ใหญ่โตขึ้นในระยะต่อไป
วิธีการของ “บ.ก.ลายจุด” และคุณสมยศฯ ทั้งในกิจกรรมและการแสดงออก คือการเคลื่อนขบวนประชาธิปไตยด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ไม่เดินเครื่องยนต์ประชาธิปไตยด้วยเนื้อในที่เป็นเผด็จการ ถ้ารักษาไว้ได้โดยตลอดจะทำให้ขบวนประชาธิปไตยใสสะอาดทั้งภายนอกและภายใน
โดยเฉพาะเมื่อคุณสมบัติฯ ให้สัมภาษณ์ว่ากิจกรรมฝ่ายท่านใช้ต้นทุนต่ำแต่ประสิทธิภาพสูงก็ยิ่งช่วยให้พ้นจากข้อครหาและมลทินในเรื่องเงินทองและผลประโยชน์ส่วนตัว มาตรฐานนี้จะดึงดูดมวลชนบริสุทธิ์ได้อีกมาก และเชื่อว่าเป็นมวลชนที่จะร่วม “เดินไกล” เพราะไม่มีข้อขัดข้องในใจใดๆ อีกแล้ว
การชุมนุมเมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๓ จึงเป็นงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยประชาธิปไตยไทยที่เรียนรู้กันมาถึง ๔ ปีเต็มๆ คนที่ไปร่วมในวันนั้นเป็นบัณฑิตทั้งนั้น แถมยังไม่มีอาจารย์โดยตำแหน่ง คนที่ไปร่วมงานนั้นรู้ว่าพวกเราประชาชนจะต้องเรียนรู้จากกันและกันเอง ผลัดกันเป็นอาจารย์และลูกศิษย์กันตามสถานการณ์
ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ที่กำลังจะออกมาสู้ชีวิตจริงครับ.
----------------------------------------------------
ที่มา : http://www.democracy100percent.blogspot.com/
---------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.com
สื่อเทศตีข่าวทั่วโลก แดงชุมนุมราชประสงค์
(19ก.ย.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ว่า กลุ่มแนวร่วมประชาชนชนเพื่อประชาธิปไตย หรือนปช.หรือคนเสื้อแดงที่ต่อต้านรัฐบาลได้มารวมกันที่กรุงเทพ และเชียงใหม่วันนี้ ในวาระครบรอบ "4 ปีรัฐประหาร 4 เดือนราชประสงค์" พร้อมระบุว่า ทางการคาดว่าไม่น่าจะเกิดความรุนแรง แต่มีตำรวจหลายพันนายวางกำลังรอบพื้นที่ และยังมีการตั้งศูนย์บัญชาการทหารทั้งกรุงเทพและเชียงใหม่คอยจับตาดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเพิ่มว่า ผู้นำคนเสื้อแดงคาดว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมราว 1 หมื่นคนที่เชียงใหม่ซึ่งถือเป็นฐานที่มั่นสำคัญของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกโค่นอำนาจไปเมื่อปี 2549 แต่ทางการคาดการณ์ว่า คนร่วมชุมนุมน่าจะอยู่ที่ราว 1 พันคน โดยที่เชียงใหม่มีกำลังตำรวจกว่า 900 นายและทหารอีก 300 นายประจำอยู่ตามจุดต่างๆ
ขณะที่ในกรุงเทพฯ ตำรวจระบุว่า มีคนเสื้อแดงมาชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ราว 2,500 คนและคาดว่า จะมีคนทยอยเดินทางมาชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเย็น ซึ่งจะมีการปล่อยลูกโป่ง สีแดงราว 1 หมื่นใบเพื่อเป็นการรำลึกถึงบุคคลที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บในวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งกองทัพใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม โดยที่กรุงเทพฯ มีจุดตรวจต่างๆ ราว 100 จุด และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 3 พันนาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า ได้ประกาศปิดบริการวันนี้ เนื่องจากผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้รวมตัวกันที่แยกราชประสงค์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมทั้งเป็นการรำลึกในโอกาสครบรอบ 4 ปี ของเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549
ขณะที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่มีการตรวจค้นบุคคลเข้า-ออก และสิ่งของสัมภาระ อย่างเข้มงวด
------------------------------------------------
ที่มา : คมชัดลึก
แรลลี่แดงถึงเชียงใหม่แล้วแดงเชียงใหม่จัดพิธีล้านนาต้อนรับ
วันที่ 18 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ กลุ่มคนเสื้อแดงที่ขับรถแรลลี่จากกรุงเทพมหานครได้เดินทางสมทบกับกลุ่มแดงอีสานบางส่วน ในเวลา 18.00 น.ขบวนดังกล่าวได้เดินทางถึงตัวเมือง จ.ลำปาง และแวะพักรถเพื่อรับประทานอาหารเย็นที่ร้านครัวบ้านพลอย อ.เมือง จ.ลำปาง และขบวนได้เคลื่อนตัวอีกครั้งจึงคาดว่าน่าจะเดินทางถึง จ.เชียงใหม่ ในเวลาประมาณ 20.00 น.
ทั้งนี้บริเวณลานอนุสาวรีย์สากษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงออกร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกคนเสื้อแดงกันอย่างคึกคัก โดยมีนายศรีวรรณ จันทร์ผง แกนนำกลุ่มนปช.แดง พร้อมมวลชนจำนวน 500 คน มารวมตัวเพื่อรอต้อนรับตามแบบพิธีฮ้องขวัญล้านนา หรือการผูกข้อมือรับขวัญแขกผู้มาเยือน ซึ่งนายศรีวรรณจะเป็นตัวแทนในการประกอบพิธีดังกล่าว และจะมีการจัดเลี้ยงอาหารค่ำก่อนที่จะแยกย้ายเข้าพักที่โรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซ เพื่อรวมกิจกรรมในวันนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้จัดกำลังไว้ในที่ตั้ง และกระจายกำลังเดินเท้าออกตรวจตราตามสถานที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ พร้อมรับสถานการณ์หากเกิดเหตุไม่คาดคิด ส่วนแกนนำคนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงทราบว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายรัฐมนตรี ได้ออกรอบตีกอล์ฟอย่างสบายใจที่สนามกอล์ฟเชียงใหม่ กรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ก่อนเป็นประธานในการเปิดกิจกรรม 19 กันยา "ตาสว่างทั้งแผ่นดิน เพื่อรำลึก 4 ปี การก่อรัฐประหาร" ที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ในเวลา 18.00 น.วันที่ 19 กันยายน 2553
----------------------------------------------------------------
SMS-TPNews 22-9-53
SMS-TPNews 21-9-53
SMS-TPNews 20-9-53
วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553
SMS-TPNews 19-9-53
SMS-TPNews 18-9-53
SMS-TPNews 17-9-53
SMS-TPNews 16-9-53
SMS-TPNews 15-9-53
SMS-TPNews 14-9-53
ปรับขบวน โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร? เรื่อง : ปรับขบวน โดย : กาหลิบ
ขณะนี้พวกเราส่วนใหญ่ในฝ่ายประชาธิปไตยกำลังอึดอัดใจและเป็นทุกข์ บางท่านถึงกับเจ็บปวดกับบรรดาข่าวทั้งหลายทั้งที่ลือและเป็นความจริงเกี่ยวข้องกับเรื่อง “เจรจา” และ “ปรองดอง” จนไม่รู้จะสลัดความรู้สึกทุรนทุรายนี้อย่างไร ภาพความตายของวีรชนการเมืองทุกยุค จนถึงวันรุมฆ่ากลางเมืองที่ราชประสงค์ ปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิด ในใจเริ่มถามคำถามว่า มวลชนที่ลุกขึ้นสู้แล้วนั้น มีราคาขนาดไหนในหัวใจขององค์กรนำและแกนนำ หรือเพราะไม่มีศรัทธานั้นเลย จึงไปตั้งโต๊ะเจรจากันในวันนี้?
นี่คือคำถามที่ชอบธรรมและต้องตอบให้ชัด
การต่อสู้ทางการเมืองของสยามประเทศ เริ่มต้นมาตั้งแต่คราว ร.ศ. ๑๓๐ ที่คิดเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยสิ้นเชิง แต่แผนแตกและถูกลงโทษกันอย่างถ้วนหน้าในสมัยรัชกาลที่ ๖ ต่อมาคณะราษฎร์ประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน และประกาศเปลี่ยนจากระบอบราชาธิปไตย มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจจริงและมีพระมหากษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ แต่ก็แพ้พ่ายต่อเขาอย่างยับเยินในเวลาต่อมา อำนาจรัฐถูกดูดกลับไปเป็นของกลุ่มอำนาจเดิม สถาบันฝ่ายประชาธิปไตยถูกทำลายลงอย่างราบคาบและเป็นระบบ ทำลายอยู่หลายปี และด้วยรัฐประหารที่ทำกันหลายครั้ง ไม่ว่าจะสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมือง รัฐบาลเลือกตั้ง จนขาดความเชื่อมโยงกับปวงชนชาวไทยไปจนหมด รัฐบาลพรรคไทยรักไทยระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๔-๒๕๔๙ ฟื้นคืนมาได้ใหม่และถูกทำลายใหม่ด้วยเครือข่ายอำนาจเก่าที่มีประสิทธิภาพและความครบถ้วนกว่าเดิมในแง่วิชามาร
ในขบวนประชาธิปไตยที่เล่ามาโดยย่อนี้ สถาบันประชาชนที่ปรากฏขึ้นมาในรูปของมวลชนผู้รักและหวงแหนประชาธิปไตย ก็พัฒนาขึ้นโดยลำดับเช่นกัน จากความไม่เกี่ยวข้องเลยในกรณี ร.ศ.๑๓๐ และการเปลี่ยนแปลงการปกครองแห่ง พ.ศ.๒๔๗๕ มามีส่วนร่วมอย่างเกรียงไกรในคราว ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ๖ตุลาคม ๒๕๑๙ และพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๕ และเกี่ยวข้องโดยตรงทั้งทางกว้างและลึก ตั้งแต่การรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันและกลายเป็นโฉมหน้าใหม่ของการเมืองไทยที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน
ความตายที่ราชประสงค์ไม่ได้เกิดจากการปะทะหรือความรุนแรงที่สาดใส่ไปมาระหว่างสองฝ่าย แต่เกิดจากความยืนหยัดไม่ยอมถอยของมวลชนส่วนใหญ่ที่ไม่มีเครื่องมือต่อสู้เพื่อป้องกันตนเองอย่างเพียงพอ โศกนาฏกรรมครั้งนี้แสดงอยู่ในตัวเองว่า ฐานะการมีส่วนร่วมของประชาชนยกสูงขึ้นอย่างไม่คาดฝันและจะมองข้ามมิได้ การดำเนินการทางการเมืองใดๆ จากเส้นแบ่งนั้น ก็ทำมิได้เช่นกัน หากไม่ปรึกษาหารือกับประชาชนเสียก่อน
จะทำสงครามก็ต้องปรึกษา จะผวากอดขาก็ต้องหารือ
เหตุผลประการเดียวคือมวลชนประชาธิปไตยมีตัวตนจริงในปัจจุบัน มิใช่เพียงตัวเลขให้ราชการมารีดนาทาเร้นหรือฝ่ายเลือกตั้งเอามาเป็นฐานเสียงให้เหยียบขึ้นไปสู่อำนาจราชศักดิ์เท่านั้น
แต่ถ้าหากไม่คิดหารือกัน และเดินต่อไปข้างหน้าโดยไม่รู้เลยว่ากำลังถอยหลัง มวลชนก็ย่อมนำเอาเหตุการณ์เยี่ยงนี้มาเป็นข้อมูลใหม่และประเมินขบวนประชาธิปไตยได้ ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่นในผู้นำเดิมและแกนนำเดิม
ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรนำทางการเมืองกับมวลชนวันนี้ขึ้นอยู่กับแนวทางอย่างเดียวเท่านั้น ใครนำแนวทางที่มวลชนส่วนใหญ่เลื่อมใสว่าถูกต้อง บารมีทางการเมืองก็จะเกิดกับผู้นั้นไปเรื่อย จนถึงวันที่เกิดคิดกำเริบเสิบสาน และหยุดฟังเสียงมวลชนขึ้นมาเมื่อใด อำนาจและบารมีเหล่านั้นก็จะหมดลงโดยพลันเหมือนปิดก๊อกน้ำ
นาทีนี้จึงเป็นความระทึกใจของขบวนประชาธิปไตยว่า ใครจะออกหัวหรือออกก้อย แต่สำหรับคนที่ต่อสู้มาอย่างทุ่มเท จริงจัง และสละทุกอย่างมานานถึงสี่ปีหรือกว่านั้น กลับเป็นนาทีที่หายใจไม่สะดวก และกลัวอยู่ลึกๆ ในใจว่าเขาจะทำให้เราผิดหวัง
สำหรับท่านที่เป็นทองของแท้ และกำลังไม่สบายใจอย่างนี้ ขอบอกท่านด้วยความเคารพว่า ขณะนี้คือนาทีที่มีคุณค่าอย่างสูงต่อขบวนประชาธิปไตยในระยะยาว
“การเจรจาปรองดอง” เที่ยวนี้ จะช่วยให้ท่านแจ่มแจ้งในหัวใจว่า ใครใช่และใครไม่ใช่สำหรับการเดินทางไกลของพวกเราชาวประชาธิปไตย เพื่อให้ขบวนใหญ่ใสสะอาดปราศจากมลทิน และเป็นระดับที่ยกสูงขึ้นสำหรับการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในภาพรวมจนกว่าจะชนะ
นี่คือการปรับขบวนประชาธิปไตยอีกครั้งเท่านั้นเอง.
-------------------------------------------------------------------------------------------
วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553
ตร.เร่งสอบภาพวงจรปิดยิงM79บึ้มสนง.พ่อตาเนวิน
"มาร์ค”ยันคดียุบปชป.ไม่ส่งผลการตัดสินใจการเมือง
บก.เรดพาวเวอร์ ยันจัดงานรำลึกรัฐประหาร
SMS-TPNews 13-9-53
2. “สมศักดิ์ฯ” ปัดบินพบ "ทักษิณ" ต่อรองตำแหน่งเลขาธิการพรรค-ยัน"นาย"แข็งแรงดี
3. "เสื้อแดงยัน 19 ก.ย.ชุมนุม ดึงจรัล,กี้ร์,ดารณีโฟน-สมยศเล็งเปิดRed Power ที่เชียงใหม่"
4. "นิติธร ล้ำเหลือ - ทนายพธม.จ่อยื่นค้านหมายจับคดีปิดสนามบินบ่ายนี้"
5. "จองบูทขายสินค้าโอทอปเสื้อแดง1-3ต.ค. ณ บิ๊กซี ลาดพร้าว ติดต่อลุงจุก-0820662819"
6. "ผบช.น.ปูด เตรียมตร.2กองร้อย คุมเชิงคนเสื้อแดงชุมนุม19 ก.ย.-ราชประสงค์"
7. เสวนา “4ปีรัฐประหาร 4เดือนราชประสงค์ฯ” 15 ก.ย.14.00น.บิ๊กซี ลาดพร้าว ช.5"
8. "พร้อมพงศ์เผย "ยงยุทธ" อาจกลับเป็นหน.พท.อีก เพราะเป็น 1 รายชื่อในแคนดิเดท"
9. "จตุพร" ประกาศลั่น ขวางปรองดองทุกวิถีทาง หากรัฐบาลยังละเลย 91 ศพ
10. "โกวิท"ถอนตัวนั่งหน.พท. ไม่ได้สมัครสมาชิกพรรค - ส.ส.หนุน"ยงยุทธ" คัมแบ็ก
11. "แดงราชบุรีนัด"ปูเสื่อกินข้าว เล่าเรื่องให้ฟัง" 19 ก.ย.สนามกีฬากลาง ราชบุรี 14น."
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ป้ายใหม่เอี่ยม หน้าสนามกีฬาจังหวัดราชบุรี
วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553
เสวนา "4 ปีรัฐประหาร 4 เดือนราชประสงค์ ประชาชนขอคืนอำนาจ"
วันพุธที่ 15 กันยายน 2553 เวลา 14.00-18.00 น. ณ บิ๊กซี ลาดพร้าว ชั้น 5 (หน้าลิฟต์)
พบกับวิทยากร :
- ส.ส.สุนัย จุลพงศธร
- ส.ส.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
- รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
- รศ.ดร.สุดา รังกุพันธุ์
- นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูษิตสกุล
ดำเนินรายการโดย : "สมยศ พฤกษาเกษมสุข"
วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553
เสื้อแดงแห่ร่วมงานศพการ์ดรักเชียงใหม่ล้นหลาม
by TPNews, 2010-09-12 23:57:09
เมื่อเวลา 10.30 น. 12 ก.ย. บริเวณวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งศพของนายกฤษดา กล้าหาญ อายุ 21 ปี เหยื่อกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ถูกยิงเมื่อคืนวันที่ 30 ส.ค. และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 4 ก.ย. มีกลุ่มคนเสื้อแดงจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมงานศพที่จะมีการเคลื่อนศพของนายกฤษดาไปเผาที่สุสานหายยา ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บรรยากาศเนืองแน่นไปหมดทำให้บริเวณวัดแคบถนัดใจ ส่วนที่เหลือต้องไปรอร่วมขบวนบริเวณหน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์ พาเลซ อยู่ด้านหลังวัดพระสิงห์
ผู้สื่อข่าวรานงานว่า ขบวนศพได้เคลื่อนออกจากวัดตลอดเส้นทาง 2 กิโลเมตร จากวัดถึงสุสาน จะมีคนเสื้อแดงยืนเรียงรายตลอดเส้นทาง เนื่องจากขบวนยาวมากและมีผู้คนจำนวนมาก ทำให้เส้นทางระหว่างวัดพระสิงห์ไปสุสานหายยา การจราจรเป็นอัมพาต รถติดยาว โดยบรรยากาศมีการโห่ร้องและจุดดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าตลอดเส้นทางจนถึงสุสานและบริเวณสุสาน
โดยบริเวณสุสาน มีคนเสื้อแดงไปรออยู่จนแทบเต็มความจุ ทั้งร่วมขบวนและอยู่ในสุสาน น่าจะมากกว่า 8,000 คน ที่สุสานมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง พร้อมทั้งส.ส.เพื่อไทย จากจังหวัดต่างๆ กว่า 20 คนเดินทางไปร่วมงาน โดยก่อนที่จะมีการเริ่มพิธีศพ นายสมชายได้นำเงิน 100,000 บาท ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ฝากมาให้ พร้อมกำชับให้ช่วยเหลือครอบครัวของนายกฤษดา ด้วย มีน.ส.นงนุช คำป้อ ภรรยาสาวที่ร่วมชะตากรรมขณะมีเกิดเหตุรับมอบ
-----------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
SMS-TPNews 12-9-53
2. "สมยศฯ แถลงโต้ศอฉ.ปิดRed Powerและแผนชุมนุมใหญ่ วันนี้ 13.30 ที่บิ๊กซี ลาดพร้าว ช.5"
3. บทความ "สมัครภาคสอง" โดย กาหลิบ (Wap Link)
4. "พบวิดีโอลิ้งค์"จักรภพ"วันนี้ ในงานเสวนา ที่ ม.ราชภัฎเชียงราย เริ่มงาน13น"
5. "12ก.ย.ปั่นจักรยานกับบก.ลายจุด นัดพบแยกราชประสงค์ (หน้าเกษรพลาซ่า) 17.00น."
6. "ฮุน เซน"หารือ"อภิสิทธิ์"นอกรอบ เวทีสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ นิวยอร์ก 24 ก.ย นี้"
7. "แดงราชบุรีนัด "ปูเสื่อกินข้าว เล่าเรื่องให้ฟัง" 19ก.ย.ที่สนามกีฬาราชบุรี เริ่มงาน14น."
8. "พท." ยัน "ปชป."อุ้มพยานปากเอกคดียุบพรรค "ธงชัย ดลศรีชัย" หมกตัวเงียบ"
9. “พร้อมพงศ์” คาดตัดสินยุบปชป.ไม่เกิน พ.ย. นายกฯชิงยุบสภาหนี จัดเลือกต้นปีหน้า
10. "สมาชิกTPNews อ่านข่าว,ค้นข้อมูลเพิ่มที่ ได้ที่ wwwthaipeoplenews.blogspot.com"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553
สมัครภาคสอง โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร? เรื่อง : สมัครภาคสอง โดย : กาหลิบ
สื่อลงข่าวกันครึกโครมว่า หลังการลาออกของหัวหน้าเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ผู้จะมาสวมตำแหน่งแทนซึ่งอาจเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็ได้ คืออดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ คือ พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ
ใครกดปุ่มมาอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ผู้คนก็ออกจะเชื่อข่าวนี้กันมาก เพราะมาพร้อมกับการอำลาเก้าอี้ที่รักษาการมายาวนานของอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยอย่างนายยงยุทธฯ และเกิดขึ้นพร้อมกระแสโหมกระหน่ำอย่างหนักเกี่ยวกับการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ราวกับว่าจะได้เลือกตั้งกันในเร็ววันนี้ จนคนจำนวนไม่น้อยก็พลอยเชื่อว่าฝ่ายเราจะได้อำนาจรัฐกลับคืนมาในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
เมามันไปตามๆ กัน
ชื่อของพลตำรวจเอกโกวิทฯ ทำให้เกิดความคิดแตกออกไปหลายทาง ในแง่ความเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์มาเป็นตั้งๆ ก็คงจับมาถ่ายเต็มยศโชว์ชาวบ้านได้โดยไม่น้อยหน้าใคร
แต่ในแง่ส่งเสริมประชาธิปไตยต้องพิจารณากันให้ดีและรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าดีกว่าตัวแทนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของฝ่ายตรงข้ามอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชวน หลีกภัย หรือนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งได้ลาออกจากระบอบประชาชนไปรับราชการก้าวหน้าอยู่ในระบอบเผด็จการโบราณเสียแล้ว
ความเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ต้องชัดเจนว่าสะท้อนความเป็นประชาธิปไตยในทุกมิติ เพราะวันนี้มวลชนคาดหวังสูงและมีความรู้อย่างยิ่งเกี่ยวกับคนเด่นๆ ในวงการเมือง รู้แม้กระทั่งว่าใครมีวิสัยสันดานอย่างไร
การต่อสู้ทางการเมืองที่ผ่านมาสี่ปีเป็นมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่ของระบอบประชาชน ที่สอบผ่านมาด้วยหยาดเหงื่อ เลือด และน้ำตา จะไม่เกิดตาสว่างบ้างให้มันรู้ไป ขนาดคนที่เคยตาบอดมาตลอดชีวิตบางคนยังตาสว่างขึ้นมาแล้วในวันนี้
ถึงพลตำรวจเอกโกวิทฯ จะเป็นคนในระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพคนเดียวที่ไม่ปรากฏตัวในที่เฝ้าฯ เมื่อใกล้วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ที่เขายึดอำนาจจากรัฐบาลที่ประชาชนเลือกเข้ามา จนพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ต้องยกโทรศัพท์ไปยื่นคำขาดบางประการ หลังจากผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ด้วยกันที่นั่นกล่าวชัดว่าต้องคอยโกวิท สุดท้ายโกวิทก็ต้องมาจริงๆ โดยเป็นขบวนใหญ่มาจากสามพราน ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นตัวแทนของระบอบประชาชนได้ในทันที
เรื่องที่ไม่ปรากฏตัวในเวทีการต่อสู้นั้นยกไว้ เพราะคนเราสู้ได้หลายทาง ยอมรับตำแหน่งในสมัยที่พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลรอบสองท่ามกลางคมหอกคมดาบก็ต้องถือว่าหัวใจใหญ่เอาการอยู่
แถมยังเอ่ยวลีอมตะทิ้งไว้ในวงการเสียด้วยว่า “พันธมิตรฯ เขาเป็น “ม็อบมีเส้น”เรียกว่าเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อนกับเขาด้วยคนหนึ่ง
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ตัวพลตำรวจเอกโกวิทฯ ซึ่งพออาศัย แต่อยู่ที่ตัวพลตำรวจเอกโกวิทฯ สะท้อนความต้องการอะไรของพรรคเพื่อไทยออกมา
สะท้อนว่าฝ่ายประชาชนพร้อมสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง
สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมจะให้การเลือกตั้งเป็นกุญแจไขไปสู่การปฏิรูปหรือปฏิวัติสังคมไทยหรือสะท้อนว่าต้องการจะเอาใจใครเท่านั้น?
ถ้าหนักไปทางประโยคหลัง โปรดอย่าลืมบทเรียนสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวชเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชาชนเอาไว้ให้ดีด้วย คราวนั้นก็นึกอย่างเดียวกันไม่ใช่หรือว่าจะเอา “ของโปรด” มาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ ความขัดแย้งใดๆ จะได้เบาบางลงหรืออาจจะหมดไปเลย
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นปมขัดแย้งขนาดใหญ่ชนิดไม่น่าเชื่อ พังทลายเป็นแถบๆ จนกระทั่งบัดนี้ เพราะไม่อาจทำหน้าที่กาวใจเชื่อมคนที่โกรธกันให้กลับมาญาติดีกันได้ มิหนำซ้ำยังพาให้ความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีระยะใกล้กับนายกรัฐมนตรีระยะไกล มีปัญหาตามมาด้วย กลายเป็นวิกฤติใหม่ที่คาดไม่ถึงในขณะนั้น
ได้ข่าวมาเหมือนกันนะครับว่า ท่านใหม่ท่านก็มีสไตล์ของท่านเองอยู่ ไม่ชอบใจใครท่านไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมอยู่เหมือนกัน จึงควรคุยกันเสียให้ดี
จะได้ไม่พลาดบ่อยครับ.
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : http://www.democracy100percent.blogspot.com/
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com /wwwthaipeoplenews.blogspot.com
“เนวิน“ ไม่หวั่นข่าวจะถูกลอบสังหาร
บก.ลายจุดเตรียมเคลื่อนไหวในช่วงครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร
บิ๊กบัง เชื่อ โกวิท นั่งหัวหน้าเพื่อไทยได้
"สมยศ" โผล่ เผยกลัวโดนอุ้มหลัง"เรดพาวเวอร์"ถูกปิด
แดงอุดรฯ ตาสว่าง 19 ก.ย.ไม่เคลื่อนเกรงฉุกเฉิน
มาร์คผวา M 79 ย้ายเชื่อมั่นประเทศไทยไปจ้อช่อง 3
พท.ฉะ“มาร์ค”เกินกว่า 2 มาตรฐาน ใช้เวลาบริหารประเทศเยี่ยม “เอเอสทีวี”
SMS-TPNews 11-9-53
2. "ตร.คุมเข้ม 24 ชม.โรงพิมพ์"เรด พาวเวอร์"ห้ามคนเข้าออก ห้ามเคลื่อนย้าย"
3. วันนี้"จักรภพ"โฟนอินงานเสวนา ห้องอาหาร"เรือนเกศินี" รามอินทรา ซ.3 เวลา 19 น.
4. “สุเทพ”บอกไม่กังวลเสื้อแดงนัดชุมนุม 19 ก.ย.-ยืนยันเชียงใหม่ไม่ประกาศพรก.ซ้ำ
5. "สนใจจองบูทโอทอปเสื้อแดง 1-3 ต.ค. ณ บิ๊กซี ลาดพร้าว ติดต่อลุงจุก 082-0662819"
6. “โกวิท”เตรียมลงสมัครสังกัดพท.13 ก.ย.นี้-ยังปฏิเสธตอบรับนั่งหน.พรรคหรือไม่"
7. "ปาตี้ผีๆ-เปิดตัวชมรมราษฎร์ประสงค์" 17-22น.วันนี้ ที่ 13 เหรียญงามวงศ์วาน"
8. "งานเสวนาที่ ซ.ร่วมสุข 5 (ซ.บ้านพักคนชรา) ปทุมฯวันนี้ "จักรภพ"โฟนอิน20.30น."
9. "สวมเสื้อแดงร่วมงานเผาศพ"น้องเจมส์" 12ก.ย.วัดพระสิงห์ ชม. กำหนดพิธี 10-17น."
10. "พท.อัดมาร์ค 2 มาตรฐานชัดแจ้ง หลังเยี่ยมASTV แต่สื่อที่ตรวจสอบรัฐกลับไม่เหลียวแล"
11. "12กย.ปั่นจักรยานกับบก.ลายจุด นัดพบแยกราชประสงค์ (หน้าเกษรพลาซ่า) 17.00น."
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------