by TPNews, 2010-09-10 00:40:23
เมื่อเวลา 12.20 น. ภายหลังการประชุมของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรค น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ นายเอกธนัช อินทร์รอด กรรมการบริหารพรรค นายกมล บันไดเพชร นายทะเบียนพรรค นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงการณ์ลาออกจากหัวหน้าพรรค
โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า วานนี้ได้ยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรค สมัยตอนรับเป็นหัวหน้าพรรค ตอนนั้นยังไม่ มี ส.ส.เลย จนกระทั่งมีสมาชิกพรรคพลังประชาชนย้ายเข้ามา เป็นเวลาเกือบ 2 ปีที่บริหารพรรค คิดว่าเพื่อไทย มั่นคงแข็งแรงตามสมควรแล้ว ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เหมือนเป็นการใช้ความรู้ความสามารถในการบริหารงานในพรรคมากเป็นพิเศษ
แต่นับจากนี้ไป ไม่เกินปีเศษ ต้องเลือกตั้งใหม่ตามรัฐธรรมนูญ ช่วงเวลาจากนี้ไปจะเร็วมาก ฉะนั้น พรรคต้องปรับโครงสร้างดังกล่าวนี้เพื่อเตรียมรับการเลือกตั้ง ไม่ใช่ไม่มีความสามารถ (เสียงสั่น) ในการเลือกตั้งหรือบริหารการเมือง เพราะตนเองก็มีความสามารถ ก็ทำได้ แต่ว่ามีคนที่ถนัดกว่า ในเรื่องบริหารการเมืองมีอยู่เยอะมาก ทั้งในพรรคและนอกพรรค ก็ได้หารือกับกรรมการบริหารว่า อยากจะขอถือโอกาสนี้ ปรับโครงสร้างของพรรคในฝ่ายกรรมการบริหารใหม่ เพื่อเตรียมรับช่วงเวลาของการเลือกตั้ง จึงได้ลาออก
ขอยืนยันกับกรรมการบริหารและสื่อมวลชนว่า จะมาพรรคทุกวันเหมือนเดิมแต่อาจจะไม่ได้พบหน้าสื่อมวลชน เหมือนตอนที่เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนการวางใครเป็นหัวหน้าคนต่อไป นายยงยุทธ กล่าวว่า ของพวกนี้เราไม่สามารถที่จะมาบอกตอนนี้ได้ครับ เพราะว่าพรรคการเมืองไม่ใช่ร้านขายของชำ เพราะร้านขายของชำ บางทีก็อาจจะกำหนดล่วงหน้าได้ว่าตัวเถ้าแก่ขี้เกียจ ตัวเถ้าแก่ไม่อยากทำแล้ว ก็ให้ลูกเถ้าแก่ หลานเถ้าแก่ทำต่อไป แต่นี่เป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นจำนวนมากมายมหาศาล มีความเห็นหลากหลาย เพราะฉะนั้น ก็จะต้องทราบกันต่อเมื่อมีการเลือกตั้งกรรมการบริหาร วันนั้นถึงจะทราบ แต่ตอนนี้ขอเรียนว่าไม่ทราบจริงๆ
ขณะที่นอกจากเตรียมแผนเลือกตั้งแล้ว การเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เป็นการหาตัวแทนที่จะไปดำเนินการเรื่องปรองดองกับรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า นั่นก็คงอีกเรื่องหนึ่ง ต้องลองถามกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะชุดเก่า ก็คงหมดวาระไป... สำหรับตนเอง ก็หมดวาระวานนี้ กรรมการบริหารท่านอื่น ก็คงรักษาการต่อไป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณมาหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ได้มีใครส่งสัญญาณมาทั้งนั้น คือขอกราบเรียนด้วยความเคารพว่าอย่าเอาทุกเรื่อง หรือเอาอะไรก็ตามที่มีความเคลื่อนไหวในพรรค ไปโยงกับตระกูลชินวัตร หรืออย่าไปโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณเลย เพราะอย่างน้อยที่สุดก็ให้ความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม และเมตตาสงสารอดีตนายกรัฐมนตรีบ้าง เพราะอะไรก็จะต้องคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณสั่ง...ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณสั่ง ตนเองก็คงไม่มานั่งพูดแบบนี้หรอก เพราะคงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และต้องมีปฏิกิริยา เหมือนที่พวกเราเคยเห็น แต่ขอยืนยันว่า จะมาพรรคทุกวันมาทำงานเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือ จะไม่ได้มาเจอน้องๆ ในฐานะหัวหน้าพรรคเหมือนเดิมแค่นั้น
นายยงยุทธ กล่าวว่า การมาทำงานการเมืองของตน บางคนก็บอกว่า อยู่ในป่าดงดิบ อยู่ท่ามกลางเสือสิงห์กระทิงแรด แต่ตนเองกลับมีความรู้สึกว่า มาทำงานการเมืองอยู่ในแวดวงพี่น้องที่มีความอบอุ่นมีความรักความผูกพัน ส่วนภาวะวิกฤตที่สุดในระหว่างเป็นหัวหน้าพรรค นายยงยุทธ กล่าวว่า ในชีวิตของตน เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นอธิบดี เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย การมีตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้ 24 ชั่วโมงป่วยไม่ได้ เจ็บไม่ได้ อยากจะเรียนว่า งานการเมืองที่มาทำ เบากว่าตอนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เบากว่าตอนที่เป็นปลัดกระทรวงเยอะ ไม่มีอะไรที่เป็นวิกฤตของตนเองเลย
ส่วนการที่ผ่านมา ถูกมองว่าเป็นนอมินี นายยงยุทธ กล่าวว่า น้องๆ ทุกคนก็ต้องทราบ ไม่ต้องตอบคำถามนี้ ตนเองใกล้ชิดกับตระกูลไหนยังไงหรือเปล่า น้องๆ ทราบ เดี๋ยวถ้าพูดไปก็จะมากเรื่อง ขออนุญาตเถอะ
ขณะที่หลังออกจากตำแหน่งอยากจะเห็นการเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างไร คงเป็นประชาชน ธรรมดาที่รักประชาธิปไตย รักความเสมอภาค รักความยุติธรรม และก็อยากจะให้เกิดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ในบ้านเมือง ด้านนางสาวสุณีย์ กล่าวว่า พรรคจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 14 กันยายนนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น