Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

เสื้อแดงแห่ร่วมงานศพการ์ดรักเชียงใหม่ล้นหลาม


by TPNews, 2010-09-12 23:57:09

เมื่อเวลา 10.30 น. 12 ก.ย. บริเวณวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งศพของนายกฤษดา กล้าหาญ อายุ 21 ปี เหยื่อกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ถูกยิงเมื่อคืนวันที่ 30 ส.ค. และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 4 ก.ย. มีกลุ่มคนเสื้อแดงจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมงานศพที่จะมีการเคลื่อนศพของนายกฤษดาไปเผาที่สุสานหายยา ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บรรยากาศเนืองแน่นไปหมดทำให้บริเวณวัดแคบถนัดใจ ส่วนที่เหลือต้องไปรอร่วมขบวนบริเวณหน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์ พาเลซ อยู่ด้านหลังวัดพระสิงห์

จนกระทั่งเวลา 12.30 น. เป็นเวลาเคลื่อนศพไปสุสาน มีการจัดริ้วขบวนความยาวร่วม 1 กิโลเมตร มีพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง พระอาจารย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งบนรถนำขบวนศพออกวัด เนื่องจากมีผู้คนร่วมขบวนจำนวนมากต้องใช้เวลาจัดขบวนร่วม 1 ชั่วโมง ซึ่งงานศพที่ทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อแดง สร้างความสนใจแก่ชาวต่างประเทศที่มาเที่ยววัด ต่างพากันถ่ายรูปไว้และซักถามว่าเป็นขบวนแห่อะไร ถึงมีผู้คนมากมายอย่างนี้ ซึ่งทางผู้รู้ภาษาอังกฤษของคนเสื้อแดงต้องอธิบายให้ทราบว่า คนที่เสียชีวิตถูกอำนาจรัฐสั่งฆ่าหลังจากชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวรานงานว่า ขบวนศพได้เคลื่อนออกจากวัดตลอดเส้นทาง 2 กิโลเมตร จากวัดถึงสุสาน จะมีคนเสื้อแดงยืนเรียงรายตลอดเส้นทาง เนื่องจากขบวนยาวมากและมีผู้คนจำนวนมาก ทำให้เส้นทางระหว่างวัดพระสิงห์ไปสุสานหายยา การจราจรเป็นอัมพาต รถติดยาว โดยบรรยากาศมีการโห่ร้องและจุดดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าตลอดเส้นทางจนถึงสุสานและบริเวณสุสาน 

โดยบริเวณสุสาน มีคนเสื้อแดงไปรออยู่จนแทบเต็มความจุ ทั้งร่วมขบวนและอยู่ในสุสาน น่าจะมากกว่า 8,000 คน ที่สุสานมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง พร้อมทั้งส.ส.เพื่อไทย จากจังหวัดต่างๆ กว่า 20 คนเดินทางไปร่วมงาน โดยก่อนที่จะมีการเริ่มพิธีศพ นายสมชายได้นำเงิน 100,000 บาท ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ฝากมาให้ พร้อมกำชับให้ช่วยเหลือครอบครัวของนายกฤษดา ด้วย มีน.ส.นงนุช คำป้อ ภรรยาสาวที่ร่วมชะตากรรมขณะมีเกิดเหตุรับมอบ

ด้านนายสมชายกล่าวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานศพว่า ตนเคยมาร่วมงานศพในเชียงใหม่หลายงาน แต่ไม่เคยเห็นงานศพไหนจะมีคนมาร่วมงานจำนวนมากมายเช่นนี้มาก่อน แสดงว่านายกฤษดาเป็นคนดี เลือดสีแดงที่เข้มข้น รักประชาธิปไตย รักประเทศชาติบ้านเมืองเหมือนคนไทยทุกคน การตายในครั้งนี้ นายกฤษดาไม่มีเรื่องอื่นเลย ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้กับใคร การตายครั้งนี้ต้องมีเงื่อนงำ ตนไม่ต้องพูดว่ามาจากเรื่องอะไร ขอให้ตำรวจจับคนก่อเหตุให้ได้ จะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำ และเห็นว่าในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะมีการเตรียมกำลังทหารตำรวจไว้จำนวนมาก เพราะเกรงว่าคนเสื้อแดงจะก่อปัญหา ตนเห็นว่าคนเสื้อแดงทำอะไรก็ว่ามีปัญหาหมด แต่พอกลุ่มอื่นทำกลับไม่มีปัญหา ขอให้เราชุมนุมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เราเรียกร้องประชาธิปไตย และเรารักทักษิณ มันผิดกฎหมายหรือ ตนเองรักทักษิณมานานแล้ว และยังรักน้องทักษิณอีกด้วย ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ดังนั้นตนจึงขอให้คนเสื้อแดงทำอะไรก็ได้ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ แต่ไม่ให้ผิดกฎหมาย ทำกันอย่างสร้างสรรค์ ชักจูงกันมาทำบุญคงไม่เป็นไร แต่ใครอย่ามาทำอะไรกับพวกเรา หากทำไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ส่วนพ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า มางานศพของนายกฤษดาแล้ว เห็นว่าเป็นงานศพไพร่ที่ยิ่งใหญ่กว่างานศพของอำมาตย์ ถือว่าคนเสื้อแดงมีน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ ในช่วงที่ประเทศต้องการความปรองดองสมานฉันท์ แต่ความปรองดองจะต้องไม่ใช่การจำนน การปรองดองจะต้องตั้งอยู่บนมาตรฐานความยุติธรรม และบ้านเมืองจะต้องมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฆาตกรที่สั่งฆ่าคนมือเปล่าต้องได้รับการลงโทษ เหมือนเช่นนายกฤษดาที่ถูกกระทำในครั้งนี้ จากพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมจากรัฐบาลทรราชที่กระทำกับคนเสื้อแดง โดยใช้คำว่ากระชับพื้นที่ที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นายกฤษดาที่รอดชีวิตมาจากกรุงเทพฯ แล้ว แต่ยังถูกตามล่าสั่งตายด้วยอาวุธสงครามอีก จึงขอให้ดวงวิญญาณการตายของนายกฤษดาฝากไปถึงอำมาตย์ว่า การตายครั้งนี้ยิ่งตายก็ยิ่งเกิดขึ้นมาอีกมากมาย และขอบอกให้อำมาตย์ได้รับรู้ว่า คนเสื้อแดงไม่มีวันตาย จะเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไปไม่มีเลิก

ด้านนายจตุพร แกนนำคนสำคัญ กล่าวแก่ผู้ที่มาร่วมงานศพว่า ต้องขอคารวะดวงวิญญาณนายกฤษดาที่เสียชีวิตในครั้งนี้ รัฐบาลชุดนี้พูดคำว่าปรองดองทีไรก็จบลงบนกองศพ ลงบนความขมขื่นที่สุด คนที่สั่งฆ่านายกฤษดาจะต้องมีจุดจบที่ไม่แตกต่างไปจากนายกฤษดาอย่างแน่นอน ตนขอบอกไปถึงคนที่สั่งฆ่าว่า คุณฆ่าคนเสื้อแดงไม่หมดหรอก ยิ่งฆ่าก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมา ในเชียงใหม่มีการยิงระเบิดใส่ค่ายทหาร และในวันนี้มีการยิงระเบิดใส่บ้านพ่อตาบางคน เพื่อจะกลบเรื่องที่กลุ่มเสื้อแดงที่มางานศพในวันนี้ ตนจึงบอกว่าภารกิจของคนเสื้อแดงยังไม่จบ หากยังมีการสั่งไล่ล่าคนเสื้อแดงเช่นนี้ เราก็จะสู้ต่อไป ไม่ว่าชาตินี้จนไปถึงชาติหน้า ขอให้คนเสื้อแดงเชื่อมั่นต่อกัน พวกเราในขณะนี้มีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งยังถูกจับไว้ อีกกลุ่มหนึ่งยังถูกไล่ล่า ตนได้ไปเยี่ยมนายณัฐวุฒิมา นายณัฐวุฒิได้ฝากมาบอกว่า อย่าเอาเรื่องอิสรภาพของเขามาเป็นข้อต่อรอง ขอให้ต่อสู้ต่อไป ตนขอยืนยันว่า การต่อสู้ ประชาชนจะต้องชนะ แม้จะนานแค่ไหนก็ตาม และตนขอให้จำคำพูดตนไว้ในวันที่เปลี่ยนรัฐบาลชุดนี้ และพวกเราได้ไปเป็นรัฐบาลบ้าง ตนจะสร้างอนุสาวรีย์วีรชนให้กับพวกเราที่เสียสละเพื่อประชาธิปไตย และตนขอบอกว่า ในวันนั้นขอให้เก็บตรวนทุกคู่ที่ใส่ขานายณัฐวุฒิ และพวกของเราทุกคน รวมทั้งนายกฤษดาในครั้งนี้ ฆาตกรไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ หรือใครก็ตาม จะต้องถูกตนตีตรวนเหมือนที่เขาทำกับเรา จึงขอให้ร้องไปยังกรมราชทัณฑ์ให้เก็บโซ่ตรวนเหล่านี้ไว้ให้ดี นายอภิสิทธิ์จะได้เลือกว่าจะใส่ของนายณัฐวุฒิหรือของใคร ในวันนี้เห็นสัมภาษณ์ว่า นายจตุพรอย่าขัดขวางการปรองดอง ตนก็ขอถามว่าพวกคุณหยุดฆ่าพวกเราหรือยัง ตนจึงขอให้พวกเรารวมใจกันเพื่อต่อสู้กันต่อไป และนายกฤษดาจะต้องไม่ตายฟรี คนผิดจะต้องชดใช้กรรม ขอพวกเราอย่ายอมแพ้แม้จะนานเพียงใดก็ตาม

-----------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น