by TPNews, 2010-09-01 00:48:00
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เกิดเหตุระเบิดภายในสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขตดินแดง กทม. เมื่อเวลา 13.30 น.ทำให้รถที่จอดอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายรวม 4 คัน ประกอบด้วย รถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ภม-4593 กทม. ถูกแรงระเบิดกระจกหลังแตกเป็นรู 2 รูใหญ่ รถนิสสันซันนี่ สีน้ำเงิน ทะเบียน กบ-2622 นนทบุรี ถูกสะเก็ดระเบิดกระจกหูช้างด้านหลังแตก รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วง-8822 กทม. ถูกสะเก็ดระเบิดที่กระโปรงหน้ารถได้รับความเสียหาย และรถตู้นิสสัน เออร์แวน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮจ-6331 กทม. ติดสติ๊กเกอร์สำนักข่าวแห่งชาติ NNTถูกสะเก็ดระเบิดที่หลังคารถ และสะเก็ดระเบิดฝังอยู่ที่ตัวถังด้านขวา
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 31 สิงหาคม พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รองผบช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน (ผบก.สส.บช.น.) พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รองผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (รอง ผบก.พฐ.) บช.ก. บก.น.1-9 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เรียกประชุมด่วนเพื่อเตรียมการรวบพยานหลักฐานเร่งรัดคดีดังกล่าวและวางแผนการดำเนินการการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวก่อนประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ว่า คดีที่เกิดขึ้นนี้เป็นคดีที่มีความสำคัญอีกคดีหนึ่งในเบื้องต้นจากการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายชุดเดียวกับที่ยิง M79 ใส่ตึกคิงพาวเวอร์ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เวลา 23.05 น.ที่ผ่านมา ในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นทางพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผบ.ตร. (ว่าที่ ผบ.ตร.) ได้เรียกตนไปกำชับการทำงานและวางแผนการทำงานสืบสวนจับกุมตัวคนร้าย และจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดที่สามารถปฏิบัติได้เข้ามาเสริมการปฏิบัติงานของตำรวจนครบาล
“คดีนี้ผู้กระทำผิดมีอัตราโทษสูงหากจับกุมและรวบรวมพยานหลักฐานครบซึ่งถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ส่วนคดีที่เกิดขึ้นล่าสุดเชื่อว่าคนร้ายใช้ยานพาหนะเป็นรถยนต์ เพราะฉะนั้นบุคคลหรือประชาชนที่ผ่านไปมาในช่วงเวลาเกิดเหตุ หากท่านพบเห็นรถต้องสงสัยหรือคิดว่ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ไม่ว่าข้อมูลจะผิดหรือถูกไม่เป็นไรเนื่องจากทางตำรวจมีแนวทางในการสืบสวนขอให้เรียบโทรแจ้งมาที่เบอร์ 191 ทันที เชื่อว่าน่าจะไปสู่ตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุดหากประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามา ทางตำรวจเชื่อว่าคนร้ายยิง M79 มาจากบนถนนโดยยิงออกมาจากภายในรถยนต์” ที่ปรึกษา สบ 10 กล่าว
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.ปทีปและพล.ต.อ.วิเชียร มีความห่วงใยกับคดีที่เกิดขึ้นจึงสั่งการให้ตนเข้ามากำกับดูแลอย่างใกล้ชิดรวมถึงการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งยังให้ตำรวจออกระดมตรวจเพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดต่างๆ หากตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนก่อเหตุได้ก็จะมีการกระทำที่ท้าทายและ กระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายต่อไป ตนจึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย
ผู้สื่อข่าวถาม การยิง M79 เป็นการยิงมาจากทางราบหรือบนทางด่วนโทลเวย์ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า ดูจากข้อมูลของผู้ชำนาญการในเบื้องต้นน่าจะเป็นการยิงมาจากบนทางด่วนโทลเวย์และยิงออกมาจากรถยนต์ แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดก็จะมีการดำเนินเพื่อสอบสวนทางคดีต่อไป ในขณะนี้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนทางด่วนโทลเวย์ไปแล้วระดับหนึ่ง และหากได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนก็จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งหนึ่ง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น