by TPNews, 2011-02-05 00:10:07
ทนาย นปช. เตรียมยื่นประกัน 7 แกนนำอีกครั้งวันที่ 7 ก.พ. นี้ ระบุจะใช้เงื่อนไขและหลักทรัพย์เท่าเดิม ไม่ยกเรื่องผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายเสื้อเหลืองได้ประกันตัว เพราะเชื่อไม่มีน้ำหนักให้ศาลใช้พิจารณา “อภิสิทธิ์” ถามเสื้อแดงจะไปชุมนุมหน้าศาลทำไม ลั่นมีหน้าที่ให้หลักประกันต่อผู้พิพากษาเรื่องใช้ดุลยพินิจอิสระสั่งคดี อัยการสูงสุดระบุถ้ายื่นประกันอีกก็มีหน้าที่ทำตามขั้นตอนที่มีอยู่ ส่วนจะได้ประกันหรือไม่อัยการไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นักวิชาการเตือนประชาชนอย่าคาดหวังกับรายงานของ คอป. เชื่อมีแค่ตัวเลขคนเจ็บ-ตาย ไม่ชี้เป้าคนผิดสั่งสังหารประชาชน ชี้รัฐบาลตั้งมาสอบเพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันตัวเองเท่านั้น
นายนรินทร์พงษ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทนายความแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันที่ 7 ก.พ. นี้ทีมทนายความจะยื่นขอประกันตัวแกนนำ นปช. ทั้ง 7 คน ในคดีก่อการร้ายอีกครั้ง
“ได้หารือกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. แล้ว โดยช่วงเช้าจะไปพบแกนนำที่เรือนจำเพื่อให้เซ็นเอกสารและไปยื่นต่อศาลช่วงบ่าย โดยวางหลักทรัพย์ค้ำประกันคนละ 3 ล้านบาทเท่าเดิม”
ใช้เงื่อนไขเดิมยื่นประกันแกนนำ
ส่วนเหตุผลการขอประกันตัวในครั้งนี้นั้น นายนรินทร์พงษ์กล่าวว่า ทีมทนายจะให้เหตุผลเดิม คือการร่วมชุมนุมตามสิทธิที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ และข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่เสนอต่อรัฐบาลเกี่ยวกับข้อสนับสนุนให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขัง เพื่อออกมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ โดยจะไม่ยกเหตุที่ศาลให้ประกันตัวนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายเหมือนกันมาเป็นข้ออ้าง เพราะเห็นว่าไม่น่าจะมีน้ำหนักต่อการขอประกันตัว
ดร.เกษม เพ็ญภินันท์ อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักวิชาการเครือข่ายสันติประชาธรรม กล่าวถึงรายงานของ คอป. ที่จะสรุปออกมาเร็วๆ นี้ว่า เท่าที่ประเมินเชื่อว่ารายงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าวคงจะออกมาในลักษณะทั่วๆ ไปว่าเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 เกิดอะไรขึ้น และเป็นเหตุการณ์ที่มีคนตายจริง แต่ประเด็นสำคัญคือยังหาตัวผู้รับผิดชอบไม่ได้
“ผมไม่คิดว่าคณะกรรมการชุดของ ดร.คณิต ณ นคร จะบ่งชี้เป้าว่าความรับผิดชอบหรือผู้รับผิดชอบในแง่การสั่งการหรือการสั่งหารหมู่ที่แยกราชประสงค์และการสลายการชุมนุมบริเวณแยกคอกวัวเป็นใคร ดังนั้น เราจะไม่เห็นตัวผู้สั่งการที่ทำให้เกิดความสูญเสีย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วโจทย์ไม่ยาก ถ้าคณะกรรมการชุดดังกล่าวไปดูคำสั่งหรือการสั่งปฏิบัติการต่างๆ ก็จะรู้” ดร.เกษมกล่าวพร้อมย้ำว่า รายงานจะมีหน้าตาออกมาแบบนี้แน่นอน จึงไม่ได้คาดหวังว่าจะมีข้อมูลอะไรที่มากกว่าเท่าที่สังคมรับรู้ รับทราบอยู่แล้วในแง่ของจำนวนคนเจ็บและคนตาย
ดร.เกษมกล่าวว่า แม้ คอป. จะสรุปผลรายงานออกมาอย่างไรคงไม่ทำให้ภาพรัฐบาลชุดนี้ดีขึ้น เพราะรัฐบาลไม่ได้หวังผลในแง่ของข้อเท็จจริง ทั้งๆ ที่โดยรวมสังคมรับทราบข้อมูลชัดเจนอยู่แล้วว่าเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น เพียง คอป. จะเป็นเกราะกำบังตัวรัฐบาลและป้องกันไม่ให้นำตัวผู้รับผิดชอบหรือผู้สั่งการต้องมารับโทษ ถ้าปัญหาเรื่องคนเจ็บและคนตายกลายเป็นประเด็นปัญหาที่อยู่ในองค์กรระหว่างประเทศ ตรงนี้ต่างหากที่รัฐบาลและชนชั้นนำในสังคมไทยหวาดวิตกมากกว่า
“คงต้องรอดูผลรายงานของ คอป. ว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ผมคิดว่ามีข้อมูลจำนวนมากอย่างไม่เป็นทางการที่ทำให้สังคมรับรู้โดยทั่วไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น ควรแยกประเด็นระหว่างข้อเท็จจริงของเหตุการณ์กับการตามเอาตัวคนสั่งสังหารประชาชนมาลงโทษ ซึ่งรัฐบาลคงไม่ได้กลัวว่าข้อเท็จจริงที่จะรายงานเป็นอย่างไร แต่กลัวในเรื่องการเอาคนสั่งการมาลงโทษมากกว่า ตรงนี้เป็นโจทย์ใหญ่” ดร.เกษมกล่าว
ดร.เกษมกล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์มีแนวโน้มจะเป็นแบบนี้ก็ยังมั่นใจว่ากลุ่มคนเสื้อแดงและฝ่ายที่สูญเสียคงไม่สิ้นหวังในการต่อสู้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เพราะการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเป็นการต่อสู้ในระยะยาว ไม่คิดว่าปัญหาการเมืองที่ฝังรากลึกแบบนี้ในสังคมใดสังคมหนึ่งจะใช้เวลาแค่ 1-2 ปีจบ เพราะบางประเทศใช้เวลานานถึง 10 กว่าปี หรืออาจถึง 100 ปีได้ อย่างไรก็ตาม การเอาคนสั่งฆ่าประชาชนมาลงโทษยังไม่ปิดประตูตายและยังมีความเป็นไปได้อยู่ ถ้าหลังการเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยชนะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : โลกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น