by TPNews, 2011-02-09 23:47:37
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 ก.พ.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา 1 ถึงความชัดเจนในการจัดการเลือกตั้งว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนเมษายนได้หรือไม่ เพราะนายกฯ ได้พูดในเวทีสัมมมนา ASEAN – CLSA Forum ระบุให้มีการเลือกตั้งภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ว่า “ผมบอกว่าปีนี้จะมีการเลือกตั้ง และขณะนี้กระบวนการก็มีความคืบหน้าไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่าปลายเดือนเมษายนนี้จะชัดเจนหรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะแล้วกล่าวว่า “เดี๋ยวดูเรื่องรัฐธรรมนูญเรียบร้อย ดูสถานการณ์เหตุการณ์บ้านเมือง แล้วเดี๋ยวก็จะมาตัดสินใจกัน ซึ่งหลังจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในวาระ 3 เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการประสานกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่ก็ต้องถาม กกต.”
เมื่อถามว่าหากสภาผ่านความเห็นชอบวาระแรกของ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมกลางปี 2554 ก็สามารถเตรียมการเลือกตั้งได้เลยใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงเรื่องของงบประมาณกลางปีฯ ในกระบวนการน่าจะเสร็จประมาณกลางเดือนมีนาคม เพราะไม่ได้มีเรื่องสลับซับซ้อนอะไร เมื่อถามว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สอดรับกันพอดีที่กติกาใหม่จะได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จังหวะน่าจะใกล้ๆ กัน เมื่อถามย้ำว่าจังหวะสามารถตัดสินใจได้พอดีใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ยิ้มก่อนกล่าวติดตลกว่า “เดี๋ยว ส.ส.ตกใจ”
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง[ กกต.]นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ว่า กกต.เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ซึ่งในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราสุดท้ายบัญญัติว่าในกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญผ่านการพิจารณาของสภาในวาระ 3แล้ว และการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ยังกระทำไม่แล้วเสร็จ หากจะต้องมีการเลือกตั้งก็ให้อำนาจกกต.ออกประกาศข้อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งได้ ซึ่งก็ถือว่ากกต.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข
แต่ทั้งนี้มีข้อกังวลว่าการออกประกาศฯ ของกกต.อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเกิดปัญหากับการทำงานของกกต. ตรงนี้กกต.เห็นว่าเพื่อให้พรรคการเมืองคลายกังวล ไม่ให้การออกประกาศฯ กลายเป็นข้อโต้แย้ง รัฐบาลก็น่าจะผลักดันให้มีการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.ให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งที่กกต.เตรียมไว้เพียง 20 กว่ามาตรา หากรัฐบาลมีการประสานงานกับสมาชิกรัฐสภาและเป็นไปตามที่สมาชิกแต่ละพรรคการเมืองพูดว่าถ้าผ่านสภาคงใช้เวลาไม่นาน ตนก็เชื่อว่าการแก้ไขน่าจะแล้วเสร็จได้ภายใน 1 เดือน เพราะประเด็นที่จะต้องมีการแก้ไขก็ไม่ได้มีอะไรมากนางสดศรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของการครบวาระของส.ว.สรรหา 74 คนในวันที่ 18 ก.พ.นี้ และอาจมีส.ว.บางส่วนลาออกก่อนครบวาระ เพื่อเข้ารับการสรรหาใหม่ อาจจะเป็นปัญหาต่อการพิจารณาผ่านร่างแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และ การได้มาซึ่งส.ว.ได้ แต่ก็คิดว่าจำนวนเสียงส.ว.ที่จะผ่านร่างกฎหมายก็เพียงแค่กึ่งหนึ่ง และการสรรหาส.ว.ก็คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนมี.ค.นี้ ดังนั้นถ้าจะผลักดันให้มีการผ่านร่างแก้ไขกฎหมายลูกก็ไม่น่าจะมีปัญหา
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้ง และเกิดการเปลี่ยนแปลงกกต. นางสดศรี กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นขณะนี้ผสมปนเปกันไปมา จึงอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ได้ เรื่องการเปลี่ยนแปลงนั้น กกต.ทราบดีว่ากกต.ต้องยึดโยงกับการเมือง แต่การจะมีปฎิวัติ รัฐประหาร แล้วทำให้ไม่มีกกต. แทนที่จะเป็นผลดีกับประชาธิปไตย ตนมองว่าน่าจะทำให้ถูกมองว่าถอยหลังมากกว่า
อย่างไรก็ตามกกต.ยืนยันว่าไม่ยึดติดกับตำแหน่งถ้ากกต.ต้องพ้นไป เพราะมีการรัฐประหารก็ไม่เป็นไร แต่การเลือกตั้งก็ควรต้องมี เพราะเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน เนื่องจากไม่มีอำนาจไหนที่มีประโยชน์ และเที่ยงธรรมเท่ากับอำนาจที่มาจากประชาชน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น