Jakrapob-รำลึกวีรชน19พ.ค.-ราชประสงค์

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

“อภิสิทธิ์” ส่ง “ชินวรณ์-ถาวร” ลงพื้นที่ 3 จว.ใต้ อ้างติดประชุมสภาฯ


by TPNews, 2010-09-09 00:15:43

8 ก.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ ประธานส.ส.พรรคภูมิใจไทย ระบุว่า 8 ส. และ1 ส.พิเศษ จะจับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง และดึงส.ส.พรรคต่างๆ ไปร่วมตั้งพรรคใหม่ในช่วงนี้ว่า ตนไม่ทราบเรื่องและไม่เคยเจอใครในรายชื่อที่อ้าง ยอมรับเคยเจอบางคนบ้างในงานวันเกิดผู้ใหญ่ แต่ไม่ได้คุยกัน ข่าวนี้ตนไม่อยากเดาและนึกเหตุผลเรื่องนี้ไม่ออก

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวจะแยกตัวจากพรรคเพื่อไทยไปตั้งพรรคใหม่ และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง และมักโดนอ้างชื่อเสมอๆ ปีที่แล้วตนตั้งสถาบันสร้างสรรค์ไทย โดยหารือในเรื่องที่มีประสบการณ์กับฝ่ายต่างๆ และเสนอความเห็นไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองบางด้าน เพราะไม่อยากให้ความรู้ที่มีต้องเสียเปล่า ส่วนเรื่องตั้งพรรคใหม่นั้นยังไม่ถึงเวลา และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยเคยปรึกษาเรื่องต่างๆ บ้างหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สิ่งใดที่แนะนำได้ก็ให้ไป แต่ตนไม่ได้เกี่ยวพันกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง เพราะโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ตอนนี้คนไทยยังเป็นศัตรูกัน ก็ลำบาก เมื่อถามถึงการที่พรรคเพื่อไทยเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อกับรัฐบาล คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ตนเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยที่เสนอเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะวันนี้ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำมามากแล้วกับวิกฤติทางการเมืองที่ต่อเนื่องมา 4-5 ปี ตอนนี้คนที่ลำบากคือคนไทย ไม่ใช่นักการเมือง ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะมานั่งร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ รัฐบาลในฐานะเป็นผู้ถืออำนาจ ต้องมีความจริงใจ เปิดใจกว้างพอที่จะเป็นเจ้าภาพเปิดเวทีเชิญทุกฝ่ายมาร่วมหารือให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ และทำอย่างไรที่จะปกป้องสถาบันหลักของเราไว้ไม่ให้แปดเปื้อน ถูกบางฝ่ายเอาไปเป็นเครื่องมือในการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ และต้องไม่ให้อำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซง

"เชื่อว่ามีโอกาสที่จะเริ่มต้นเจรจากันได้ เพียงแต่รัฐบาลอย่ามัวคิดถึงผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้น อย่าคิดแต่จะเอาเปรียบทางการเมืองกันเลย ส่วนประเด็นที่ยังโทษกันไปโทษกันมา ต้องแยกแยะให้ออกว่าการปรองดองไม่ใช่จะไม่เอาผิดกับคนที่กระทำผิดกฎหมาย แต่ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นธรรม และยุติธรรม กรณีที่โทษกันไปมาว่าใครผิด ใครสั่งฆ่าประชาชน ก็ต้องรับผิดชอบ ใครสั่งเผาบ้านเผาเมืองก็ต้องรับโทษ แต่ต้องมีการสอบสวนเอาข้อเท็จจริงออกมาให้ได้ รัฐบาลควรเคร่งครัดกับการบังคับใช้กฎหมาย ประเทศจะได้เดินหน้าไปได้ และผลักดันการปรองดองในส่วนที่ทำได้ แต่ไม่ควรมาไล่ระบุว่า ใครเผาเมือง ใครยิงใคร หากทำแบบนี้มันจะผลักความผิดและโทษกันไปมาและไม่จบ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น